chit_50
บุคคลทั่วไป
|
 |
« ตอบ #90 เมื่อ: ธันวาคม 27, 2016, 04:59:24 AM » |
|
...การสื่อสารที่ผิดพลาด อาจทำให้เสียการใหญ่ แต่สำหรับทริปนี้ เป็นทริปที่ตื่นเต้น เร้าใจจริงๆครับ... ...ภาพที่ 138.jpg เหมือนภาพซ้อนเลยครับ...
|
|
|
|
|
FRW
|
 |
« ตอบ #91 เมื่อ: ธันวาคม 28, 2016, 07:44:29 PM » |
|
...การสื่อสารที่ผิดพลาด อาจทำให้เสียการใหญ่ แต่สำหรับทริปนี้ เป็นทริปที่ตื่นเต้น เร้าใจจริงๆครับ... ...ภาพที่ 138.jpg เหมือนภาพซ้อนเลยครับ...
ผมตั้งกล้องอยู่บนขาตั้ง ตั้งเวลาถ่าย 10 วิ กดเสร็จวิ่งเข้าเฟรม แต่มันคงหนาวอ่ะ น้าชิต มันเลยออกมาเป็นแบบนั้นมั้ง 555
|
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
|
|
|
|
chit_50
บุคคลทั่วไป
|
 |
« ตอบ #92 เมื่อ: ธันวาคม 29, 2016, 05:08:53 AM » |
|
...การสื่อสารที่ผิดพลาด อาจทำให้เสียการใหญ่ แต่สำหรับทริปนี้ เป็นทริปที่ตื่นเต้น เร้าใจจริงๆครับ... ...ภาพที่ 138.jpg เหมือนภาพซ้อนเลยครับ...
ผมตั้งกล้องอยู่บนขาตั้ง ตั้งเวลาถ่าย 10 วิ กดเสร็จวิ่งเข้าเฟรม แต่มันคงหนาวอ่ะ น้าชิต มันเลยออกมาเป็นแบบนั้นมั้ง 555 
|
|
|
|
|
e21rts
|
 |
« ตอบ #93 เมื่อ: ธันวาคม 29, 2016, 02:56:25 PM » |
|
ขอบคุณสำหรับภาพสวยๆและเรื่องราวมหากาพย์นี้ครับ..ท่านประธาน.. สภาพพื้นที่ทั้งความสูงและอากาศหนาวเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงสำหน่ารักพื้นราบเมืองร้อนอย่างเราๆมากครับ.. ฉนั้น..เจ้าเขนท้องแดง..Daurian Redstart. และเจ้าเขนสีฟ้าท้ายสีน้ำตาล..Blue-fronted Redstart. ผมเลยรอมันบินมาให้ถ่ายที่ดอยอินท์ครับ..
|
++คติเตือนตน++คำว่า"คนดี"..คือคำที่มีไว้เรียกคนโง่ให้ฟังสวยหรูดูดีมีเกียรติ...เพื่อหลอกให้มันหลงภาคภูมิใจ...และตั้งหน้าตั้งตาทำเรื่องโง่ๆของมันต่อไป..
|
|
|
|
FRW
|
 |
« ตอบ #94 เมื่อ: ธันวาคม 30, 2016, 07:23:33 PM » |
|
ขอบคุณสำหรับภาพสวยๆและเรื่องราวมหากาพย์นี้ครับ..ท่านประธาน.. สภาพพื้นที่ทั้งความสูงและอากาศหนาวเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงสำหน่ารักพื้นราบเมืองร้อนอย่างเราๆมากครับ.. ฉนั้น..เจ้าเขนท้องแดง..Daurian Redstart. และเจ้าเขนสีฟ้าท้ายสีน้ำตาล..Blue-fronted Redstart. ผมเลยรอมันบินมาให้ถ่ายที่ดอยอินท์ครับ..
ครับ น้ายอด ผมเองถ้าให้ตั้งใจไปถ่ายนก เห็นทีคงเวซย์โนเหมือนกันครับ แต่นี่เป็นรายการที่เข็มขัดสั้น ไม่นึกว่าจะเจอ เลยเอามาซะหน่อยครับ ขนาดสมาชิกชวนผมตื่นตี 4 บอกว่าออกไปถ่ายดาวที่อุณหภูมิ เกือบ 0 องศา ผมยังขอนอนดีกว่าครับ ถ่ายดาวที่เมืองไทยก็ได้ครับ อิๆๆ
|
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
|
|
|
|
FRW
|
 |
« ตอบ #95 เมื่อ: ธันวาคม 30, 2016, 07:32:20 PM » |
|
เส้นทางวันนี้ส่วนใหญ่วิ่งลัดเลาะไปตามไหล่เขาที่สูงชัน และวิ่งขนาบไปกับแม่น้ำ ผมจึงสังเกตเห็นว่า ตลอดเส้นทาง จะมีสถานีผลิตไฟฟ้าจากพลังน้ำอยู่เป็นระยะๆ เพราะตลอดเส้นทางนี้ ในแม่น้ำมีน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากเลยเชียว ซึ่งผมมองว่าหากเราเครื่องกังหันน้ำไปวางดักโดยที่ไม่จำเป็นต้องมีเขื่อน ก็น่าจะได้พลังงานไฟฟ้าหลายพักกิโลวัตท์แล้ว และหากสร้างเขื่อนเล็กๆทดน้ำเอาไว้ให้สูงขึ้นเล็กน้อย ก็คงได้หลายร้อยเมกกะวัตท์เลยเชียว ทางการของจีนก็เลยสร้างโรงไฟฟ้าขนาดเล็กเอาไว้ทั่วไป เพราะการสร้างโรงไฟฟ้าขนาดเล็กๆแบบนี้ จะไม่ไปรบกวนชาวบ้านเลย เพราะระดับน้ำยังคงเท่าเดิมนั่นเอง
|
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
|
|
|
|
FRW
|
 |
« ตอบ #96 เมื่อ: ธันวาคม 30, 2016, 07:34:46 PM » |
|
แต่...ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเขื่อนเอาซะเลยทีเดียว บางจุดที่เห็นว่าเหมาะสม ทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตก็สร้างเขื่อนขนาดที่พอเหมาะกับพื้นที่ครับ
|
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
|
|
|
|
FRW
|
 |
« ตอบ #97 เมื่อ: ธันวาคม 30, 2016, 07:37:34 PM » |
|
ที่เขาสูงชัน บางจุดก็เห็นน้ำตกสูงลิบ แต่หลายแห่งได้ถูกทางการใส่ท่อเข้าไปเพื่อเอาพลังงานน้ำมาใช้ผลิตไฟฟ้าไฟแล้ว เมื่อน้ำตกแบบนี้มีอยู่ดาษดื่น ชาวบ้านไม่มีใครสนใจกับความงดงามของมัน เพราะมีที่สวยกว่าเยอะแยะ จึงเอามันมาทำประโยชน์ทางด้านพลังงานดีกว่า
|
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
|
|
|
|
FRW
|
 |
« ตอบ #98 เมื่อ: ธันวาคม 30, 2016, 07:43:42 PM » |
|
น้ำของแม่น้ำบ้านเค้าค่อนข้างสะอาด เพราะเป็นน้ำที่ละลายมาจากหิมะเป็นส่วนใหญ่ ไม่เหมือนน้ำในแม่น้ำเมืองไทย ที่เป็นน้ำฝนที่ชะมาจากยอดดอย ทำให้น้ำขุ่นขลัก และหากกั้นเขื่อนแล้ว เมื่อน้ำไหลมาถึงเขื่อน น้ำจะนิ่งและหยุดไหล ทำให้น้ำตกตะกอน จนก้นทะเลสาบตื้นเขินขึ้นทุกๆปี แถมเรายังมีขยะที่ปนมากับน้ำด้วย ขยะพวกนี้เป็นอันตรายต่อระบบกังหันน้ำ จึงต้องคอยกำจัดขยะทิ้ง
ถึงเขื่อนที่เมืองจีนน้ำจะสะอาดกว่า แต่เข้าถึงหน้าฝน ก็มีบ้างเหมือนกัน จึงต้องสร้างทุ่นลอยน้ำเอาไว้กั้นขยะที่หน้าเขื่อนเหมือนกันครับ
|
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
|
|
|
|
FRW
|
 |
« ตอบ #99 เมื่อ: ธันวาคม 30, 2016, 07:47:31 PM » |
|
ตลอดเส้นทาง มีเมืองหลายเมือง ที่สร้างเมืองอยู่ในหุบเขา หากสร้างเขื่อนขนาดใหญ่เมื่อไร เมืองต่างๆเหล่านี้เดือดร้อนแน่นอน ทางจีนแม้จะเป็นการปกครองด้วยระบบเผด็จการ แต่รัฐบาลมีความเข้าใจต่อประชาชนมาก จึงเลือกที่จะทำในสิ่งที่ไม่ทำความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนของเค้า
การมีชีวิตอยู่ท่ามกลางหุบเขาเช่นนี้ อากาศน่าจะดีกว่าในเมือง ชีวิตชาวเมืองในหุบเข้าน่าจะยืนยาวกว่าคนในเมืองครับ
|
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
|
|
|
|
FRW
|
 |
« ตอบ #100 เมื่อ: ธันวาคม 30, 2016, 07:49:02 PM » |
|
เมื่อรถเข้าใกล้เมืองเฉิงตู ผู้จัดทัวร์ก็บอกว่า เดี๋ยวเมื่อถึงเฉิงตูและส่งพวกเราที่โรงแรมแล้ว รถคันนี้จะหมดวาระงานของเค้าแล้ว พรุ่งนี้จะมีรถคันใหม่มารับ-ส่งพวกเราไปสนามบิน ฉะนั้นจึงอยากให้พวกเราจ่ายค่าทิปแก่คนขับรถตั้งแต่ตอนนี้เลย พวกเราจึงควักเงินกันคนล่ะหนึ่งร้อยหยวนเป็นทิปให้แก่คนขับรถไป ผมจ่ายไปแล้วรู้สึกเสียดายตังอย่างยิ่งที่พี่แกมาทำงานสายทุกวัน บริการห่วยแตกแล้วยังมีหน้าจะมาเอาค่าทิปอีก แต่กติกา ก็คือ กติกา ไม่อยากโวยวาย
ในภาพ ไกด์สาวคนใหม่ อิๆๆ
|
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
|
|
|
|
FRW
|
 |
« ตอบ #101 เมื่อ: ธันวาคม 30, 2016, 07:49:50 PM » |
|
ระหว่างทางขากลับเข้าเมืองเฉิงตู ไกด์ถามทุกคนว่า พรุ่งนี้เครื่องบินออกเวลาบ่าย 3 โมงกว่า มีเวลาว่างเยอะตั้งครึ่งวัน พวกท่านมีใครสนใจจะไปชมหมีแพนด้ากันบ้างไหม? ทุกคนตอบว่า OK เจ้า Ricky อมยิ้มนัยๆในสีหน้าก่อนจะบอกว่า ถ้าอยากไปชมหมี มันนอกรายการทัวร์ จึงต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มอีกท่านล่ะ 200 หยวน ทั้งหมด 29 ท่านก็ 5800 หยวน หรือหากจะจ่ายเป็นดอลล่าร์ก็ 850 US พวกเราหลายคนที่ไม่ค่อยพอใจกับเรื่องที่ย่าติ่งอยู่แล้วก็เลยโวยว่า ในรายทัวร์จะรวมค่าเช่าม้าขึ้นย่าติ่งเอาไว้คนล่ะ 500 หยวน แต่พวกเราไม่ได้ใช้บริการม้าเลยแม้แต่คนเดียว ในเมื่อทางทัวร์ไม่ได้เช่าม้าให้พวกเราใช้ก็ควรเอาเงินค่าเช่าม้ามาชดเชยในรายการดูหมีแพนด้าจึงจะถูก เจ้า Ricky หันไปมองหน้าผู้จัดทัวร์แบบสงสัยว่าเรื่องมันเป็นอย่างไร ผู้จัดทัวร์เลยออกมาอ้อมแอ้มว่า...."ค่าเช่าม้าไม่ได้รวมอยู่ในรายการทัวร์ ผมเข้าไปตรวจสอบดูแล้ว ไม่มีจริงๆ พวกท่านคงอ่านผิดหรือจำมาผิดแล้วมั้ง" เป็นเรื่อง..... หลายคนที่มีเนตจากเมืองไทยก็เข้าเนตไปตรวจเช็คทันที แต่ปรากฏว่า ข้อความที่บอกว่ารวมค่าเช่าม้า และค่าทิปไกด์ ได้ถูกแก้ไขไปเสียแล้ว จากคำว่ารวม เป็นคำว่า "ไม่รวม" โดยเพิ่มคำว่าไม่อีกคำเท่านั้น ความหมายก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ทุกคนรู้ทันทีว่าผิดท่าซะแล้ว คงจะเจอลูกเล่นของผู้จัดทัวร์เข้าให้แล้ว แกคงแอบเข้าไปแก้ไขข้อความดังกล่าวโดยการลบออกไปอีตอนที่พวกเราโวยว่าค่าม้ารวมอยู่ในรายการแล้วในวันที่เจ้า Ricky บอกจะเก็บค่าเช่าม้าเพิ่มนั่นเอง ร้าย..จริงๆ แต่พอตอนหลังเกิดไม่มีม้าให้เช่า เรื่องม้าก็เลยเงียบไป พอมาวันนี้พวกเราจะเอาค่าม้าไปชดเชยหมีแพนด้า ก็เลยพูดถึงเรื่องนี้กันขึ้นมาอีก แต่ที่ไหนได้ หลักฐานมันเปลี่ยนไปซะแล้ว เอาไงดีล่ะทีนี้ คุณหมอผู้หญิงท่านหนึ่งหัวไว แอบกระซิบถามว่ามีใครที่ปริ๊นท์รายการทัวร์มาด้วยหรือเปล่า ผมเองแม้ว่าจะปริ๊นท์มาก็จริง แต่ผมดันปริ๊นท์แต่รายการทัวร์ของแต่ล่ะวัน รายการควบผมดันไม่ได้ปริ๊นมาด้วย ในที่สุดก็มีลูกทัวร์ท่านหนึ่งยกมือและบอกว่ามี พวกเราจึงส่งให้แกดู ส่วนในรายการนั้นรวมค่าเช่าม้าหรือไม่ ผมไม่ทราบเพราะ ไม่ได้ดู รู้แต่ว่าหลังจากที่แกเห็นใบรายการของแกเองเท่านั้น แกต้องยอมรับปากว่าจะจ่ายค่าชมหมีแพนด้าให้ หลายคนแอบกระซิบว่า ค่าเช่าม้าคนล่ะ 500 หยวน แต่ค่าเข้าชมหมีแพนด้าแค่คนล่ะ 200 หยวน แถมค่าทิปคนขับก็เก็บพวกเราไปแล้ว แกได้เปรียบเห็นๆยังจะแถอีก ไหนๆก็พูดแล้ว ก็ควรบอกแกเลยว่าค่าทิปไกด์พวกเราก็ไม่ออก แกควรต้องจ่ายค่าทิปไกด์ด้วย ไม่ใช่มาเก็บค่าทิปไกด์อีก แกก็เลยต้องยอมรับไปอีกเรื่อง จากนั้นแกก็ล้วงเงินนับส่งให้กับเจ้า Rickyไป 850 หยวน เจ้า Ricky ทำหน้ายังกะถูกผีหลอก บอกแกว่า 850 US ไม่ใช่หยวน ถ้าจ่ายเป็นหยวนต้อง 5800 หยวน แกทำหน้างงๆ ร้องว่าอ้าว.... ไม่ใช่ 850 หยวนเหรอ.... พวกเราฮาครืนกันลั่นรถ เมื่อต้องจ่าย 5800 หยวนแกเลยทำหน้าซีด อ้อมแอ้มอีกครั้งว่ายังไม่มีตัง เดี๋ยวไปถึงเมืองเฉิงตูก่อน แล้วจะกดตังให้
สาวสวยที่ร่วมคณะ
|
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
|
|
|
|
FRW
|
 |
« ตอบ #102 เมื่อ: ธันวาคม 30, 2016, 07:51:21 PM » |
|
รถมาส่งพวกเราที่โรงแรมเร็วกว่าที่คิด เพราะราวๆ 5 โมงเย็นพวกเราก็มาถึงแล้ว เมื่อขนของลงจากรถได้ เจ้าคนขับก็ห้อแนบไม่เหลียวหลัง เมื่อแจกกุญแจห้องแล้วไกด์ก็บอกว่า วันนี้จะพาไปกินข้าวที่ภัตตาคาร แต่เมื่อรถไปแล้ว และรถคันใหม่จะมาพรุ่งนี้เช้า พวกเราจึงไม่มีรถใช้ มันพูดหน้าตาเฉยว่า "ต้องเดินไป" มันบอกว่าไม่ต้องกลัว ไม่ไกลนักหรอก และถามอีกว่ามีใครสนใจจะเข้าไปชมการแสดงมายากลเปลี่ยนหน้ากากอันลือชื่อของเมืองเฉิงตูบ้างไหม แต่บอกก่อนนะว่าต้องจ่ายเพิ่มเหมือนกัน ก็มีลูกทัวร์หลายคนแสดงความประสงค์จะเข้าชม ส่วนผมพอกันทีกับไกด์คนนี้ หลังเอากระเป๋าเข้าไปเก็บที่ห้องแล้วลงมาที่ล๊อบบี้ พร้อมหน้ากันแล้วไกด์ก็พาเดินไปกินข้าว คำว่าไม่ไกลของมัน พวกเราเดินกันจนเหงื่อซึมก็ยังไม่ถึงสักที แถมมันยังบอกว่าให้พวกที่ไม่เข้าไปชมการแสดงให้จำทางกลับโรงแรมเอาไว้ด้วย เพราะเดี๋ยวกินข้าวอิ่มมันต้องพาลูกทัวร์ไปชมการแสดง ไม่ได้กลับโรงแรมพร้อมกับพวกที่ไม่ไปชม อย่าเดินหลงทางล่ะ เดี๋ยวจะไปกันใหญ่ แน่ะ มีขู่อีก อาหารมื้อนั้นค่อนข้าง OK ชะๆๆ มาให้กินดีๆหน่อยก็อีมื้อสุดท้ายแล้วนี่เอง คืนนั้นหลังจากที่เข้าห้องนอนแล้ว ผมรู้สึกตัวว่ามีไข้และเริ่มมีอาการเจ็บคอกับไอผสมเข้าด้วย จึงหายากิน แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าผมลืมเอาวิค ยาทาแก้หวัดมาด้วย หันไปหันมาก็เจอขวดยาน้ำเสลดพังพอนสีเขียว ยาแผนโบราณที่พี่ปิ่นให้มาก่อนมาจีนและผมดันเอาใส่มาในถุงยาด้วย เมื่อไม่มีวิค ก็เอาไอ้นี่แก้ขัดไปก่อนล่ะกัน ผมละเลงทาลงที่บริเวณลำคอ ปรากฏว่ามันได้ผลดีกว่าวิคซะอีก
ภาพปลาตู้ ในสวนสัตว์
|
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
|
|
|
|
FRW
|
 |
« ตอบ #103 เมื่อ: ธันวาคม 30, 2016, 07:52:43 PM » |
|
ตามรายการวันที่ 9 วันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม 2559 ตามโปรแกรมเดิม รายการมีไว้ดังนี้ครับ "หลังอาหารเช้าเที่ยวชมถนนโบราณจินลี่และอิสระช๊อปปิ้งซื้อของที่ระลึก หลังอาหารกลางวันเดินทางไปสนามบินเฉิงตู 15.05น. ออกเดินทางโดยสานการบินไทยเที่ยวบินที่ TG619 17.20นงเดินทางกลับถึงกรุงเทพฯสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ" หากตามรายการวันนี้ เราก็แค่ไปเดินช๊อปปิ้งซื้อของฝากแล้วก็กลับบ้าน แต่วันนี้เรามีโปรแกรมเพิ่มคือไปชมหมีแพนด้า หลังอาหารเช้าที่โรงแรม รถโคชคันใหม่ใหญ่กว่าคันเดิมใหม่เอี่ยมก็เข้ามารับพวกเราที่โรงแรมก่อน 7 โมงเช้า ทุกคนเริ่มบ่นว่าทำไมไม่ใช้รถใหญ่คันนี้ซะตั้งแต่วันแรก (ว๊ะ) ที่เก็บสัมภาระก็กว้างใหญ่ ไม่ต้องมาค่อยๆเรียงเหมือนคันก่อน ข้างบนก็มีที่นั่งมากกว่าเยอะ 47 ที่นั่ง เลือกนั่งเอาตามใจชอบกันเลย ผู้จัดรายการมาตอบว่า ทางการจีนเค้าห้ามนำรถโคชคันใหญ่พาลูกทัวร์ไปตามเส้นทางที่เป็นเขาสูงชัน เพราะเกรงว่ารถจะขึ้นเขาไม่ไหวและอันตราย ก็ไม่ทราบว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่
ทางเดินในสวนสัตว์ บางจุดแสงลงสวยมาก ขาดเพียงนางแบบเท่านั้น
|
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
|
|
|
|
FRW
|
 |
« ตอบ #104 เมื่อ: ธันวาคม 30, 2016, 07:53:50 PM » |
|
ยังไม่ทันจะ 8 โมง รถคันใหม่ก็พาพวกเราอำลาจากโรงแรมที่พักในเมืองเฉิงตู ไกด์อธิบายว่า สวนสัตว์ที่เลี้ยงเจ้าหมีแพนด้าอยู่นอกเมือง แต่ก็ไม่ห่างมากนัก จากนั้นก็เล่าเรื่องหมีแพนด้าว่ามันคือสัตว์ในตระกูลไหน มีถิ่นกำเนิดที่ไหน ฯลฯ แกพ่นด้วยภาษาอังกฤษที่ผมฟังไม่ค่อยรู้เรื่องก็เลยเลิกสนใจ พวกเราไปถึงสวนสัตว์ราว 9 โมง อุแม่จ้าว....... หน้าสวนสัตว์คนเยอะมาก..... เจ้า Ricky วิ่งไปต่อคิวเพื่อซื้อตั๋ว พวกเราเลยหาเรื่องแชะภาพกันที่หน้าห้องขายตั๋วฆ่าเวลาไปพลางๆ เมื่อได้ตั๋วแล้ว เจ้า Rickyก็พาเดินเข้าในสวนสัตว์ และกำหนดว่าหากใครที่หลงกลุ่มให้มาพบกันตรงประตูทางออกของสวนสัตว์ตรงนี้ แกชี้ไปที่ใต้ต้นไม้ต้นหนึ่งพร้อมกับมองหน้าผม เออ..... ตูคงไม่เดินหลงทางอีกหรอกว๊ะ กะอีแค่สวนสัตว์แค่นี้เอง แต่พอเข้าไปเดินจริงๆถึงรู้ว่าสวนสัตว์ของเค้ามันใหญ่มาก แถมคนเยอะยังกะงานวัดบ้านเรา ต้องเดินเบียดเสียดกับนักท่องเที่ยวไปตลอด ยกเว้นมุมที่ไม่มีอะไรน่าสนใจ แต่หากเป็นจุดที่มีกรงหมีแพนด้าล่ะก้อ.... แน่นจนแทบจะหาช่องเบียดคนเข้าไปถ่ายหมีไม่ได้เลย เพื่อนฝูงก็เลยต้องตะโกนถามกันวุ่นวายว่า "เห็นหมีบ้างมั๊ย เห็นหมีกันรึเปล่า" ผมสะดุ้งเหมือนถูกพาดพิง ส่วนพวกผู้หญิงก็สะดุ้งด้วย ไม่รู้ว่าถูกพาดพิงด้วยหรือเปล่าเหมือนกัน มีอยู่จุดหนึ่งที่มีเจ้าลูกแพนด้าน้อยนอนแอ้งแม้งผึ่งพุงอยู่ ดูน่ารักมาก และที่อยู่ใกล้ๆกันก็มีเจ้าหน้าที่หญิงกำลังอุ้มเจ้าหมีน้อยเอาไว้แนบอก เห็นแล้วอยากเข้าไปอุ้มเจ้าตัวน้อยซะจริงๆเล๊ย....
|
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
|
|
|
|
|