ต่อไป »

[..สืบเนื่องเรื่องนี้คือผมมีนัดไปถ่ายนกที่แก่งกระจานกับคุณหลินและคุณจวง..วันนี้ตอนตีห้าผมจึงไปบ้านคุณหลินแล้วควบเจ้านิสสันเทอร่าคันนี้..ผ่านการจราจรที่ผมไม่คุ้นเคยเพราะต้องใช้สะพานทศมราชันย์แทนสะพานพระรามเก้าด้วยว่าเค้าปิดทางด่วนเดิมจากเหตุคานถล่มนั่นแหละ..ผมต้องให้น้องวินำวนไปลงที่ถนนสุขสวัสดิ์เพื่อออกพระรามสยอง เอ๊ยยย..สอง..เพื่อไปสมทบกับคุณพงษ์พันธ์และคุณจวงที่นัดไว้ที่ร้านข้าวแกงแม่ล้วนเขาย้อยครับ..บอกไว้ตรงนี้เลยนะว่าใครที่ไม่คุ้นชินกับเส้นทางนี้..ตรงที่จะลงถนนสุขสวัสดิ์นั่นให้ระวังเป็นอย่างมาก...ด้วยว่าถนนมันโค้งแคบมาก..หากมาเร็วๆจะเอาไม่อยู่..ใครหลายคนด่าไว้ว่าวิศวะกรออกแบบถนนตรงนี้ได้เลวมาก..ซึ่งผมพอมาเจอแล้วต้องบอกว่าจริง..เพราะพอลงมาปั๊บก็เจอแยกไฟแดงถนนประชาอุทิศ(แยกกิโลเก้า)..ทั้งรถที่ลงมาและรถทางตรงสุขสวัสดิ์ขาเข้าก็ต้องติดแหงกกันตรงนี้แหละ..เมื่อวิ่งออกพระรามสองและมาถึงแม่ล้วน..จนอิ่มมื้อเช้าตอนเจ็ดโมงเช้าแล้วเราสองคันก็ขับตามกันไปและจอดรถคุณจวงไว้ที่สมานเบริ์ดแคมป์..แล้วรวมกันสี่คนในรถขับสี่ล้อคันนี้ขึ้นเขาพะเนินทุ่งด้วยหวังพญาปากกว้างหางยาวที่ทำรังอยู่ กม.26 ครึ่ง..ตามที่คุณพงษ์พันธ์ทราบข่าวมา....ปรากฏว่าเมื่อขึ้นไปถึงตอนราวสามโมงเช้า..เห็นแต่รัง..หาตัวนกไม่เจอ..อาจเพราะสร้างรังเสร็จแล้วตอนนี้เลยไปฮันนีมูนกัน..ไม่กลับมาเฝ้ารัง..คณะเรารออยู่ราวชั่วโมงกว่าๆ..เห็นว่าคงไม่มาแน่แล้วก็ขับรถลงเขามาที่หมายกะเต็นน้อยสามนิ้วหลังดำแถวๆลำธาร 3..พอมาถึงก็เห็นเค้าเกาะกิ่งอยู่หน้ารูรังอยู่ก่อนแล้วราวห้าวินาทีแล้วก็บินออกไป..คณะเราก็หาที่จัดขาตั้งวางกล้องรอเค้ากลับมา....รอกันจนเงกเลยครับ..สองสามชั่วโมงก็ยังไร้วี่แววว่าจะกลับมา..ผมเลยเดินหาแมลงมามาโครแก้เซ็ง..]

..สืบเนื่องเรื่องนี้คือผมมีนัดไปถ่ายนกที่แก่งกระจานกับคุณหลินและคุณจวง..
วันนี้ตอนตีห้าผมจึงไปบ้านคุณหลินแล้วควบเจ้านิสสันเทอร่าคันนี้..ผ่านการจราจรที่ผมไม่คุ้นเคยเพราะต้องใช้สะพานทศมราชันย์แทนสะพานพระรามเก้าด้วยว่าเค้าปิดทางด่วนเดิมจากเหตุคานถล่มนั่นแหละ..
ผมต้องให้น้องวินำวนไปลงที่ถนนสุขสวัสดิ์เพื่อออกพระรามสยอง  เอ๊ยยย..สอง..เพื่อไปสมทบกับคุณพงษ์พันธ์และคุณจวงที่นัดไว้ที่ร้านข้าวแกงแม่ล้วนเขาย้อยครับ..
บอกไว้ตรงนี้เลยนะว่าใครที่ไม่คุ้นชินกับเส้นทางนี้..ตรงที่จะลงถนนสุขสวัสดิ์นั่นให้ระวังเป็นอย่างมาก...ด้วยว่าถนนมันโค้งแคบมาก..หากมาเร็วๆจะเอาไม่อยู่..
ใครหลายคนด่าไว้ว่าวิศวะกรออกแบบถนนตรงนี้ได้เลวมาก..ซึ่งผมพอมาเจอแล้วต้องบอกว่าจริง..เพราะพอลงมาปั๊บก็เจอแยกไฟแดงถนนประชาอุทิศ(แยกกิโลเก้า)..ทั้งรถที่ลงมาและรถทางตรงสุขสวัสดิ์ขาเข้าก็ต้องติดแหงกกันตรงนี้แหละ
..เมื่อวิ่งออกพระรามสองและมาถึงแม่ล้วน..จนอิ่มมื้อเช้าตอนเจ็ดโมงเช้าแล้วเราสองคันก็ขับตามกันไปและจอดรถคุณจวงไว้ที่สมานเบริ์ดแคมป์..แล้วรวมกันสี่คนในรถขับสี่ล้อคันนี้ขึ้นเขาพะเนินทุ่งด้วยหวังพญาปากกว้างหางยาวที่ทำรังอยู่ กม.26 ครึ่ง..ตามที่คุณพงษ์พันธ์ทราบข่าวมา..
..ปรากฏว่าเมื่อขึ้นไปถึงตอนราวสามโมงเช้า..เห็นแต่รัง..หาตัวนกไม่เจอ..อาจเพราะสร้างรังเสร็จแล้วตอนนี้เลยไปฮันนีมูนกัน..ไม่กลับมาเฝ้ารัง..
คณะเรารออยู่ราวชั่วโมงกว่าๆ..เห็นว่าคงไม่มาแน่แล้วก็ขับรถลงเขามาที่หมายกะเต็นน้อยสามนิ้วหลังดำแถวๆลำธาร 3..พอมาถึงก็เห็นเค้าเกาะกิ่งอยู่หน้ารูรังอยู่ก่อนแล้วราวห้าวินาทีแล้วก็บินออกไป..คณะเราก็หาที่จัดขาตั้งวางกล้องรอเค้ากลับมา..
..รอกันจนเงกเลยครับ..สองสามชั่วโมงก็ยังไร้วี่แววว่าจะกลับมา..ผมเลยเดินหาแมลงมามาโครแก้เซ็ง..

[..เห็นใยแมงมุมอยู่ใต้ซุ้มกอไผ่ที่มืดๆ..เลยเดินเข้าไปดูใกล้ๆถึงได้เห็นตัวครับ..เพราะมันตัวเล็กราวๆหนึ่งเซนติเมตร..กลับมาแล้วไปค้นในกูเกิ้ลถึงได้รู้ว่าเค้าชื่อ"แมงมุมเขาควาย"..มันสีสวยน่าสนใจ..ผมเลยถอดกล้องจากเลนส์ถ่ายนกมาใส่เลนส์มาโคร 100 มิลแทน..ติดแฟลชแล้วก็มา"ยืนเขย่ง"ถ่ายเค้า...เพราะระดับเค้าอยู่สูงไปหน่อย..]

..เห็นใยแมงมุมอยู่ใต้ซุ้มกอไผ่ที่มืดๆ..เลยเดินเข้าไปดูใกล้ๆถึงได้เห็นตัวครับ..เพราะมันตัวเล็กราวๆหนึ่งเซนติเมตร..
กลับมาแล้วไปค้นในกูเกิ้ลถึงได้รู้ว่าเค้าชื่อ"แมงมุมเขาควาย"..มันสีสวยน่าสนใจ..ผมเลยถอดกล้องจากเลนส์ถ่ายนกมาใส่เลนส์มาโคร 100 มิลแทน..
ติดแฟลชแล้วก็มา"ยืนเขย่ง"ถ่ายเค้า...เพราะระดับเค้าอยู่สูงไปหน่อย..

[..ถ่ายมาหลายใบในมุมซ้ำๆกัน..แต่ก็ยังมองไม่ออกว่าหน้าตาเค้าเป็นยังไง..แต่เดาได้ว่าไอ้เขาควายนั่นมันโค้งมาทางด้านหลังเค้าแน่ๆ..จนเค้ามีการขยับตัวเปลี่ยนท่า..ถึงได้เห็นว่าปากและเขี้ยวอยู่ตรงไหน..]

..ถ่ายมาหลายใบในมุมซ้ำๆกัน..แต่ก็ยังมองไม่ออกว่าหน้าตาเค้าเป็นยังไง..แต่เดาได้ว่าไอ้เขาควายนั่นมันโค้งมาทางด้านหลังเค้าแน่ๆ..
จนเค้ามีการขยับตัวเปลี่ยนท่า..ถึงได้เห็นว่าปากและเขี้ยวอยู่ตรงไหน..

[..ลำบากพอสมควรในการถ่ายเค้า..ด้วยว่าต้องยืนเขย่ง..และปัญหาใหญ่คือจังหวะที่มีลมพัดมาเส้นใยเค้าก็จะโยกไกวไหวเอนทำให้เอ้าท์โฟกัส..และถ่ายมาโครนั้นความชัดลึก(DOF)ว่ากันเป็นมิลลิเมตร..คือทั้งผมและเค้า"ไม่นิ่ง"ด้วยกันทั้งคู่นั่นแหละ..]

..ลำบากพอสมควรในการถ่ายเค้า..ด้วยว่าต้องยืนเขย่ง..และปัญหาใหญ่คือจังหวะที่มีลมพัดมาเส้นใยเค้าก็จะโยกไกวไหวเอนทำให้เอ้าท์โฟกัส..
และถ่ายมาโครนั้นความชัดลึก(DOF)ว่ากันเป็นมิลลิเมตร..คือทั้งผมและเค้า"ไม่นิ่ง"ด้วยกันทั้งคู่นั่นแหละ..

[..กดมาหกเจ็ดสิบใบโดยผสานแสงแฟลชกับแสงธรรมชาติ..แต่ได้ด้านหัวแค่ไม่กี่ใบเองครับ..เพราะมุมมันบังคับให้ไปถ่ายด้านหัวเค้าไม่ได้..ดูก้นที่เค้าใช้ชักใยไปละกัน..อิๆเพราะพื้นตรงนั้นต่ำลงไปกว่าตรงเนินดินที่ถ่ายอยู่นี่ลงไปราวสามสิบเซนติเมตร..แค่ตรงนี้ก็ต้องเขย่งถ่ายแล้ว..ถ้าลงไปตรงนั้นถ่ายมาคงได้ตัวเท่ามดแหละ....ขอบคุณที่เยี่ยมชม+ชี้แนะ...และขอบคุณพื้นที่แห่งนี้ครับ..]

..กดมาหกเจ็ดสิบใบโดยผสานแสงแฟลชกับแสงธรรมชาติ..แต่ได้ด้านหัวแค่ไม่กี่ใบเองครับ..เพราะมุมมันบังคับให้ไปถ่ายด้านหัวเค้าไม่ได้..ดูก้นที่เค้าใช้ชักใยไปละกัน..อิๆ
เพราะพื้นตรงนั้นต่ำลงไปกว่าตรงเนินดินที่ถ่ายอยู่นี่ลงไปราวสามสิบเซนติเมตร..แค่ตรงนี้ก็ต้องเขย่งถ่ายแล้ว..ถ้าลงไปตรงนั้นถ่ายมาคงได้ตัวเท่ามดแหละ..
..ขอบคุณที่เยี่ยมชม+ชี้แนะ...และขอบคุณพื้นที่แห่งนี้ครับ..

พระเอก ย่อมมีหนึ่งเดียวเลยครับ

[..น่าเสียดายที่เค้าหันก้นมาเป็นส่วนใหญ่..ได้จังหวะหันหน้ามาไม่กี่ใบเองครับ..ถ้าผมลงไปยืนในแอ่งก็จะห่างเค้ามาก..และแบ็คกราวด์จะเงยขึ้นท้องฟ้า..กลายเป็นแสงเข้าด้านหลัง..ไอ้ครั้นจะเอาไม้เขี่ยเพื่อเปลี่ยนมุมของเค้า..ก็กลัวคนจะนินทาว่าผมรังแกสัตว์..อิๆๆ]

พระเอก ย่อมมีหนึ่งเดียวเลยครับ

..น่าเสียดายที่เค้าหันก้นมาเป็นส่วนใหญ่..ได้จังหวะหันหน้ามาไม่กี่ใบเองครับ..
ถ้าผมลงไปยืนในแอ่งก็จะห่างเค้ามาก..และแบ็คกราวด์จะเงยขึ้นท้องฟ้า..กลายเป็นแสงเข้าด้านหลัง..
ไอ้ครั้นจะเอาไม้เขี่ยเพื่อเปลี่ยนมุมของเค้า..ก็กลัวคนจะนินทาว่าผมรังแกสัตว์..อิๆๆ