ต่อไป »

[..ท่านประธานขับรถพาชาวคณะวนถ่ายรูปรอบอ่างเก็บน้ำหนึ่งรอบแล้ววนเข้ามา"ซอยกลาง"ครับ..ซอยกลางคือแนวถนนที่กั้นระหว่างอ่างนอกที่อยู่ติดถนนใหญ่ประโคนชัย-บุรีรัมย์และอ่างใน..เมื่อเข้ามาสุดทางก็จอดรถแล้วต่างก็แบกกล้องลงไปเดินหาซัพเจคเอาเอง..ผมเดินด้อมๆมองๆอยู่สองสามรอบ..แต่ก็หานกกระเรียนไม่เจอครับ..ชักเมื่อยเลยมานั่งเช็ครูปที่หลังกล้องอยู่ริมอ่างโดยน้าว่างมานั่งอยู่ข้างๆด้วย...ส่วนน้าหมอนั่งบนคันถนนและท่านประธานเดินลึกเข้าไปด้านใน..11.07 น.เสียงน้าว่างระล่ำระลักว่า"กระเรียนๆ"..ผมแหงะสายตาจากหลังจอกล้องมองไปข้างหน้าก็เห็นกระเรียนหกตัวกำลังบินห่างราวร้อยห้าสิบเมตรทางขวามือ..กดสิครับ..จะรออะไรอีก...ก็ได้จังหวะบินมาราวยี่สามสิบใบ..นี่ต้องขอบคุณน้าว่างจริงๆเพราะถ้าไม่ร้องบอกผมก็ไม่ได้ภาพหรอก..เพราะมัวแต่เช็ครูปอยู่ไม่ได้ดูโลกภายนอกเลย..]

..ท่านประธานขับรถพาชาวคณะวนถ่ายรูปรอบอ่างเก็บน้ำหนึ่งรอบแล้ววนเข้ามา"ซอยกลาง"ครับ..
ซอยกลางคือแนวถนนที่กั้นระหว่างอ่างนอกที่อยู่ติดถนนใหญ่ประโคนชัย-บุรีรัมย์และอ่างใน..เมื่อเข้ามาสุดทางก็จอดรถแล้วต่างก็แบกกล้องลงไปเดินหาซัพเจคเอาเอง..
ผมเดินด้อมๆมองๆอยู่สองสามรอบ..แต่ก็หานกกระเรียนไม่เจอครับ..ชักเมื่อยเลยมานั่งเช็ครูปที่หลังกล้องอยู่ริมอ่างโดยน้าว่างมานั่งอยู่ข้างๆด้วย...ส่วนน้าหมอนั่งบนคันถนนและท่านประธานเดินลึกเข้าไปด้านใน..
11.07 น.เสียงน้าว่างระล่ำระลักว่า"กระเรียนๆ"..ผมแหงะสายตาจากหลังจอกล้องมองไปข้างหน้าก็เห็นกระเรียนหกตัวกำลังบินห่างราวร้อยห้าสิบเมตรทางขวามือ..
กดสิครับ..จะรออะไรอีก...ก็ได้จังหวะบินมาราวยี่สามสิบใบ..นี่ต้องขอบคุณน้าว่างจริงๆเพราะถ้าไม่ร้องบอกผมก็ไม่ได้ภาพหรอก..เพราะมัวแต่เช็ครูปอยู่ไม่ได้ดูโลกภายนอกเลย..

[..เค้าร่อนลงพื้น..แล้วเดินหากินลึกเข้าไปด้านที่ท่านประธานอยู่..กลุ่มเราสามคนจึงขยับเดินช้าๆตามเข้าไป..จังหวะนี้ท่านประธานโทรหาสมาชิกอุตลุต..เพราะกลัวว่าเรายังไม่เห็นนก//หรือเห็นแล้วแต่จ้ำอ้าวตามเข้าไปจนทำให้นกตื่นบินหนีไป..แต่ไม่มีใครรับสายเลยเพราะทุกคนทิ้งโทรศัพท์อยู่ในรถกันหมด..ขอบดินคันถนนมีต้นไม้ขึ้นหนารกทึบ..เราจึงใช้กำบังตัวจากสายตาของนกได้ดี..แต่ปัญหาคือเราก็จะถ่ายนกไม่ได้เพราะต้นไม้บังนั่นแหละ..ต้องหาจังหวะที่บางช่วงมันมีช่องโปร่งถ่ายเอา..]

..เค้าร่อนลงพื้น..แล้วเดินหากินลึกเข้าไปด้านที่ท่านประธานอยู่..กลุ่มเราสามคนจึงขยับเดินช้าๆตามเข้าไป..
จังหวะนี้ท่านประธานโทรหาสมาชิกอุตลุต..เพราะกลัวว่าเรายังไม่เห็นนก//หรือเห็นแล้วแต่จ้ำอ้าวตามเข้าไปจนทำให้นกตื่นบินหนีไป..แต่ไม่มีใครรับสายเลยเพราะทุกคนทิ้งโทรศัพท์อยู่ในรถกันหมด..
ขอบดินคันถนนมีต้นไม้ขึ้นหนารกทึบ..เราจึงใช้กำบังตัวจากสายตาของนกได้ดี..แต่ปัญหาคือเราก็จะถ่ายนกไม่ได้เพราะต้นไม้บังนั่นแหละ..ต้องหาจังหวะที่บางช่วงมันมีช่องโปร่งถ่ายเอา..

[..จากที่ถ่ายไกลๆ..ตอนนี้ 600 มิลผมต้องถอยซูมแล้วครับ..เพราะนกตัวใหญ่มาก..และผมอยู่ในระยะราวสามสิบเมตรแล้ว..หากเค้ายืนกันคนละระนาบ..ที่เอฟ 6.3 จะถ่ายได้ชัดตัวเบลอตัว..แต่มองจากวิวไฟเดอร์ไม่ออกครับ..ผมจึงพยายามถ่ายในจังหวะที่เค้ายืนระนาบใกล้เคียงกัน..]

..จากที่ถ่ายไกลๆ..ตอนนี้ 600 มิลผมต้องถอยซูมแล้วครับ..เพราะนกตัวใหญ่มาก..และผมอยู่ในระยะราวสามสิบเมตรแล้ว..
หากเค้ายืนกันคนละระนาบ..ที่เอฟ 6.3 จะถ่ายได้ชัดตัวเบลอตัว..แต่มองจากวิวไฟเดอร์ไม่ออกครับ..ผมจึงพยายามถ่ายในจังหวะที่เค้ายืนระนาบใกล้เคียงกัน..

[..กระเรียนไทย..Sarus Crane. นกน้ำขนาดใหญ่มากราว 152-156 เซ็นติเมตร(วัดจากปลายปากถึงปลายหาง..แต่ถ้าวัดถึงปลายเท้าราว 180 เซ็น) นัยตาสีเหลืองสด คอยาว หัวและคอเป็นหนังเปลือยสีแดงสด..กระหม่อมเป็นแผ่นกระดูกแข็งสีเทา..ขนลำตัวสีเทา..ขนคลุมปีกด้านในยาวคลุมหาง..ขนปลายปีกและขนคลุมขนปลายปีกเทาดำ..ในหนังสือตำรานกหมอบุญส่งเล่ม 100 ปี..แจ้งไว้ว่าอยู่ในสถานะสูญพันธ์ไปจากประเทศไทย..แต่เท่าที่ทราบข้อมูลมาคือกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธ์พืช..ได้ไปเอานกกระเรียนพันธ์นี้มาจากเขมรเข้ามาเพาะพันธ์เลี้ยงดูในไทยตั้งแต่ปี 2542 แล้วปล่อยให้หากินตามธรรมชาติ....ปัจจุบันนี้ที่พบเห็นได้คือที่นี่และที่ห้วยจรเข้มากเท่านั้น..นกสามารถใช้ชีวิตและขยายพันธ์ได้ในธรรมชาติ..และปัจจุบันคาดว่ามีอยู่ราวๆ 30-40 ตัว]

..กระเรียนไทย..Sarus  Crane.  นกน้ำขนาดใหญ่มากราว 152-156 เซ็นติเมตร(วัดจากปลายปากถึงปลายหาง..แต่ถ้าวัดถึงปลายเท้าราว 180 เซ็น)  นัยตาสีเหลืองสด  คอยาว 
หัวและคอเป็นหนังเปลือยสีแดงสด..กระหม่อมเป็นแผ่นกระดูกแข็งสีเทา..ขนลำตัวสีเทา..ขนคลุมปีกด้านในยาวคลุมหาง..ขนปลายปีกและขนคลุมขนปลายปีกเทาดำ..
ในหนังสือตำรานกหมอบุญส่งเล่ม 100 ปี..แจ้งไว้ว่าอยู่ในสถานะสูญพันธ์ไปจากประเทศไทย..
แต่เท่าที่ทราบข้อมูลมาคือกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธ์พืช..ได้ไปเอานกกระเรียนพันธ์นี้มาจากเขมรเข้ามาเพาะพันธ์เลี้ยงดูในไทยตั้งแต่ปี 2542  แล้วปล่อยให้หากินตามธรรมชาติ..
..ปัจจุบันนี้ที่พบเห็นได้คือที่นี่และที่ห้วยจรเข้มากเท่านั้น..นกสามารถใช้ชีวิตและขยายพันธ์ได้ในธรรมชาติ..และปัจจุบันคาดว่ามีอยู่ราวๆ 30-40 ตัว

[..แต่ละคนใครถ่ายอยู่มุมไหนได้ภาพยังไงผมไม่รู้ครับ..แต่สำหรับผมถือว่าพอใจเป้าหมายที่มาทริปนี้แล้ว..จนราว 11.25 น.เค้าก็เทคออฟออกไป 18 นาทีเต็มๆที่ถ่ายเค้า..ผมนี่ซัดมาสามร้อยกว่าใบครับ..ขอบคุณทุกท่านที่เยี่ยมชม+ชี้แนะ...และขอบคุณพื้นที่แห่งนี้ครับ..]

..แต่ละคนใครถ่ายอยู่มุมไหนได้ภาพยังไงผมไม่รู้ครับ..แต่สำหรับผมถือว่าพอใจเป้าหมายที่มาทริปนี้แล้ว..
จนราว 11.25 น.เค้าก็เทคออฟออกไป  18 นาทีเต็มๆที่ถ่ายเค้า..ผมนี่ซัดมาสามร้อยกว่าใบครับ
..ขอบคุณทุกท่านที่เยี่ยมชม+ชี้แนะ...และขอบคุณพื้นที่แห่งนี้ครับ..

สุดยอด....

งามๆเลยครับน้าผมยังไม่ได้เจอตัวเลย
 

[..นี่พึ่งเห็นว่าเค้ามีการไว้เคราดำๆด้วยครับ..]

สุดยอด....

..นี่พึ่งเห็นว่าเค้ามีการไว้เคราดำๆด้วยครับ..

[..ไปเมื่อไหร่ก็เจอครับ..เมื่อสามวันก่อนน้ามนัสไปได้ตอนเค้าพาลูกมาหากินสองตัว..รวมพ่อแม่เป็นสี่ตัว..อยู่ในนาข้าวที่กำลังจะแก่..สวยมากๆ..]

งามๆเลยครับน้าผมยังไม่ได้เจอตัวเลย
 

..ไปเมื่อไหร่ก็เจอครับ..เมื่อสามวันก่อนน้ามนัสไปได้ตอนเค้าพาลูกมาหากินสองตัว..รวมพ่อแม่เป็นสี่ตัว..อยู่ในนาข้าวที่กำลังจะแก่..สวยมากๆ..