ต่อไป »

[ป้อมผีเสื้อสมุทรเป็นป้อมปืนใหญ่สมัยโบราณ..สร้างอยูริมฝั่งขวาของแม่น้ำเจ้าพระยาแถวๆตรงข้ามปากน้ำสมุทรปราการครับ..ปัจจุบันไม่ได้ใช้งานแล้ว...แต่มีการอนุรักษ์เอาไว้เช่นเดียวกับป้อมพระจุล..เช้าวันอาทิตย์ที่ 23 เมษา..ผมขับรถมาจอดที่ลานหน้าวัดพระสมุทรเจดีย์..แล้วเดินข้ามสะพานมาที่นี่..ด้วยเพราะมีข่าวว่านกมหาเทพมาลง..เมื่อเข้าถึงหมาย...แม่จ้าวววว...คงจะนกเทพจริงๆครับ...เพราะมีเพื่อนๆมาเฝ้ารอกันเกือบยี่สิบท่านแล้ว...แต่นกยังไม่มา...ก็นั่งสนทนาค่าเวลารอกันตั้งแต่สิบโมงเช้านั่นแหละ..จนช่วงบ่ายหลายๆท่านก็ลากลับไปก่อนด้วยติดภาระกิจ..หลายท่านก็ทนอยู่กับความร้อนอบอ้าวสุดๆนั่นไม่ไหว...และหลายท่านก็พึ่งจะแบกกล้องตามเข้ามาวัดดวง..ราวบ่ายสาม..น้ามนัส-น้ามีเดช-หมออากฤษ-น้าโจ..ก็ย้ายตำแหน่งไปนั่งพิงกำแพงทางด้านทิศตะวันตกของเป้าหมาย..เพราะตำแหน่งที่รอตอนเช้านั้นบัดนี้มันย้อนแสงแล้ว..ส่วนผมเองยังไม่อยากไปตรงนั้นเพราะมันไม่มีร่มไม้..นั่งหลบอยู่ใต้ต้นไม้ที่เก่าจนราวห้าโมงเย็นจึงหันมาชวนป้าอ้อกับลุงหนุ่ยว่าไปมุมนู้นเถอะ..เดี๋ยวนกจะมาแล้ว..แล้วผมก็เดินนำหน้าผ่านแท็งค์น้ำจนเกือบถึงตำแหน่งที่น้าโจนั่งอยู่..ทันใดนั้นน้าโจก็โบกมือให้ผมหยุดเดิน..ให้ย่อตัวลงและค่อยๆเข้าไป..ด้วยว่านกกำลังจะลง..จากนั้นทั้งสี่ท่านก็กดกันพรืดๆๆๆ..ผมเองเข้ามากดได้ใบเดียวนี้เท่านั้น..ก่อนที่นกจะขนเปียกเพราะลงน้ำครับ..เฮ้อออ...มหาเทพนี้มีชื่อว่า..เดินดงอกลาย Dusky Thrush. ตัวนี้เพศผู้เต็มวัยครับ..ขนาดเค้าราวๆ 23-25 เซนติเมตรความสวยงามก็งั้นๆ...แต่เหตุที่ทำให้เค้าเป็นเทพได้นี่เพราะในประเทศไทยมีโอกาสที่จะได้พบเจอเค้ายากมากครับ..นี่ไม่รู้ว่าหลงมายังไง]

ป้อมผีเสื้อสมุทรเป็นป้อมปืนใหญ่สมัยโบราณ..สร้างอยูริมฝั่งขวาของแม่น้ำเจ้าพระยาแถวๆตรงข้ามปากน้ำสมุทรปราการครับ..ปัจจุบันไม่ได้ใช้งานแล้ว...แต่มีการอนุรักษ์เอาไว้เช่นเดียวกับป้อมพระจุล..
เช้าวันอาทิตย์ที่ 23 เมษา..ผมขับรถมาจอดที่ลานหน้าวัดพระสมุทรเจดีย์..แล้วเดินข้ามสะพานมาที่นี่..ด้วยเพราะมีข่าวว่านกมหาเทพมาลง..
เมื่อเข้าถึงหมาย...แม่จ้าวววว...คงจะนกเทพจริงๆครับ...เพราะมีเพื่อนๆมาเฝ้ารอกันเกือบยี่สิบท่านแล้ว...แต่นกยังไม่มา...ก็นั่งสนทนาค่าเวลารอกันตั้งแต่สิบโมงเช้านั่นแหละ..
จนช่วงบ่ายหลายๆท่านก็ลากลับไปก่อนด้วยติดภาระกิจ..หลายท่านก็ทนอยู่กับความร้อนอบอ้าวสุดๆนั่นไม่ไหว...และหลายท่านก็พึ่งจะแบกกล้องตามเข้ามาวัดดวง..
ราวบ่ายสาม..น้ามนัส-น้ามีเดช-หมออากฤษ-น้าโจ..ก็ย้ายตำแหน่งไปนั่งพิงกำแพงทางด้านทิศตะวันตกของเป้าหมาย..เพราะตำแหน่งที่รอตอนเช้านั้นบัดนี้มันย้อนแสงแล้ว..
ส่วนผมเองยังไม่อยากไปตรงนั้นเพราะมันไม่มีร่มไม้..นั่งหลบอยู่ใต้ต้นไม้ที่เก่าจนราวห้าโมงเย็นจึงหันมาชวนป้าอ้อกับลุงหนุ่ยว่าไปมุมนู้นเถอะ..เดี๋ยวนกจะมาแล้ว..
แล้วผมก็เดินนำหน้าผ่านแท็งค์น้ำจนเกือบถึงตำแหน่งที่น้าโจนั่งอยู่..ทันใดนั้นน้าโจก็โบกมือให้ผมหยุดเดิน..ให้ย่อตัวลงและค่อยๆเข้าไป..ด้วยว่านกกำลังจะลง..
จากนั้นทั้งสี่ท่านก็กดกันพรืดๆๆๆ..ผมเองเข้ามากดได้ใบเดียวนี้เท่านั้น..ก่อนที่นกจะขนเปียกเพราะลงน้ำครับ..
เฮ้อออ...มหาเทพนี้มีชื่อว่า..เดินดงอกลาย  Dusky  Thrush.  ตัวนี้เพศผู้เต็มวัยครับ..ขนาดเค้าราวๆ 23-25 เซนติเมตร
ความสวยงามก็งั้นๆ...แต่เหตุที่ทำให้เค้าเป็นเทพได้นี่เพราะในประเทศไทยมีโอกาสที่จะได้พบเจอเค้ายากมากครับ..นี่ไม่รู้ว่าหลงมายังไง

[น้าโจกดไปสามสี่ชุดแล้วก็รีบออกไปตะโกนเรียกเพื่อนๆซึ่งส่วนใหญ่ยังนั่งกันอยู่ตามใต้ร่มไม้..เท่านั้นแหละ..ยังกับผึ้งแตกรังเลย..แต่ละคนคว้าอาวุธประจำกายวิ่งมาทางริมกำแพงเพื่อหามุมถ่าย...เพราะว่าเดิมพันมันใหญ่หลวงด้วยเพราะรอกันมาตั้งแต่เช้าแล้ว..พื้นที่ตรงนั้นไม่เรียบครับ...เพราะเป็นร่องน้ำและหลุมบ่อกางขาตั้งวางลำบาก..แถมพอคนเยอะเข้าก็บังหน้าบังหลังกันชุลมุนวุ่นวาย...ฮ่าๆๆอารัยจะขนาดน้านนน..แถมมีการถึงเสียเลือดครับ..คือมิสเตอร์ปีเตอร์ซึ่งเป็นฝรั่งที่มาอยู่และถ่ายนกที่เมืองไทยนานจนพูดไทยได้คล่องแคล่ว...อารามรีบร้อนกลัวไม่ทันนกเลยวิ่งสดุดท่อน้ำล้มลงโดยเอามือยันลงพื้น..แต่โดนเศษกระเบื้องบาดฝ่ามือข้างขวาเป็นแผลยาวเลือดไหลโชกเลย...มาถามหาว่าใครมีทิชชู่บ้าง..ก็เลยบอกว่าให้ไปทำแผลที่ป้อมทหารก่อน...สุดท้ายนกก็ไม่ได้ถ่าย..แถมฮู๊ดหน้าเลนส์ก็แตกไปด้วย....ส่วนเจ้าตัวต้นเหตุนี่ทำไม่รู้ไม่ชี้ไม่รับผิดชอบครับ..เอาหน้าอกจุ่มน้ำสบัดปีกพรึ่บๆๆๆจนขนเปียกปอนเลอะเทอะเปรอะเปื้อนไปหมด..แล้วก็บินขึ้นไปยืนสบัดแห้งบนกำแพง..]

น้าโจกดไปสามสี่ชุดแล้วก็รีบออกไปตะโกนเรียกเพื่อนๆซึ่งส่วนใหญ่ยังนั่งกันอยู่ตามใต้ร่มไม้..
เท่านั้นแหละ..ยังกับผึ้งแตกรังเลย..แต่ละคนคว้าอาวุธประจำกายวิ่งมาทางริมกำแพงเพื่อหามุมถ่าย...เพราะว่าเดิมพันมันใหญ่หลวงด้วยเพราะรอกันมาตั้งแต่เช้าแล้ว..
พื้นที่ตรงนั้นไม่เรียบครับ...เพราะเป็นร่องน้ำและหลุมบ่อกางขาตั้งวางลำบาก..แถมพอคนเยอะเข้าก็บังหน้าบังหลังกันชุลมุนวุ่นวาย...ฮ่าๆๆอารัยจะขนาดน้านนน..
แถมมีการถึงเสียเลือดครับ..คือมิสเตอร์ปีเตอร์ซึ่งเป็นฝรั่งที่มาอยู่และถ่ายนกที่เมืองไทยนานจนพูดไทยได้คล่องแคล่ว...อารามรีบร้อนกลัวไม่ทันนกเลยวิ่งสดุดท่อน้ำล้มลงโดยเอามือยันลงพื้น..แต่โดนเศษกระเบื้องบาดฝ่ามือข้างขวาเป็นแผลยาวเลือดไหลโชกเลย...มาถามหาว่าใครมีทิชชู่บ้าง..ก็เลยบอกว่าให้ไปทำแผลที่ป้อมทหารก่อน...สุดท้ายนกก็ไม่ได้ถ่าย..แถมฮู๊ดหน้าเลนส์ก็แตกไปด้วย..
..ส่วนเจ้าตัวต้นเหตุนี่ทำไม่รู้ไม่ชี้ไม่รับผิดชอบครับ..เอาหน้าอกจุ่มน้ำสบัดปีกพรึ่บๆๆๆจนขนเปียกปอนเลอะเทอะเปรอะเปื้อนไปหมด..แล้วก็บินขึ้นไปยืนสบัดแห้งบนกำแพง..

[ยืนสบัดขนจนเกือบแห้งแล้ว...ไม่รู้เค้าคิดยังไงหรือเพราะอากาศมันร้อนจัด..เค้าเลยบินกลับลงมาอาบใหม่อีกทีครับ..ไม่อยากจะให้ดูสถานที่อาบของเค้าเลย..กลัวเสียภาพลักษณ์นกมหาเทพครับ..เพราะมันเป็นรางน้ำที่รับน้ำจากท่อน้ำทิ้งที่เขลอะสุดๆครับ..และผมไม่เข้าใจว่าทำไมเค้าต้องมาอาบตรงนี้..เพราะในป่าจากที่อยู่ข้างๆแอ่งน้ำถมถืดไป...เพียงแต่มันเป็นน้ำกร่อยเท่านั้น...หรือว่าอาบตรงนี้มันหอมหวานชื่นใจกว่า...ฮ่าๆๆ]

ยืนสบัดขนจนเกือบแห้งแล้ว...ไม่รู้เค้าคิดยังไงหรือเพราะอากาศมันร้อนจัด..เค้าเลยบินกลับลงมาอาบใหม่อีกทีครับ..
ไม่อยากจะให้ดูสถานที่อาบของเค้าเลย..กลัวเสียภาพลักษณ์นกมหาเทพครับ..เพราะมันเป็นรางน้ำที่รับน้ำจากท่อน้ำทิ้งที่เขลอะสุดๆครับ..
และผมไม่เข้าใจว่าทำไมเค้าต้องมาอาบตรงนี้..เพราะในป่าจากที่อยู่ข้างๆแอ่งน้ำถมถืดไป...เพียงแต่มันเป็นน้ำกร่อยเท่านั้น...หรือว่าอาบตรงนี้มันหอมหวานชื่นใจกว่า...ฮ่าๆๆ

[กล้องยี่สามสิบตัวก็รัวกันสนั่นหวั่นไหวอีกครั้งครับ..แต่ถ่ายไปก็เท่านั้น...เพราะมันหาความสวยงามอันใดบ่ได้...ถ่ายเพื่อให้บันทึกเป็นประวัติศาสตร์ว่าเคยได้ถ่ายเท่านั้น...อิๆๆ]

กล้องยี่สามสิบตัวก็รัวกันสนั่นหวั่นไหวอีกครั้งครับ..แต่ถ่ายไปก็เท่านั้น...เพราะมันหาความสวยงามอันใดบ่ได้...ถ่ายเพื่อให้บันทึกเป็นประวัติศาสตร์ว่าเคยได้ถ่ายเท่านั้น...อิๆๆ

[เค้าบินขึ้นกำแพงที่เก่า...สบัดๆแล้วก็บินขึ้นต้นไม้ไปสบัดต่ออีกพักนึง...แล้วก็บินลับตาไป..บรรดาพลซุ่มยิงทั้งหลายก็เก็บข้าวของร่ำลาแยกย้ายกันกลับ..แต่คงถึงบ้านช้ากันทุกคนครับ..เพราะบนถนนสุขสวัสดิ์ตั้งแต่หน้าโรงงานไทยยาซากิยันสามแยกพระประแดงมีม็อบปิดถนนเพื่อเล่นสงกรานต์ครับผมเองกว่าจะกะดึ๊บๆมาถึงวงแหวนกาญจนาภิเษกเพื่อข้ามสะพานมาฝั่งสำโรงได้ใช้เวลาไปราวชั่วโมงครึ่งเลย....ขอบคุณทุกท่านที่เยี่ยมชม+ชี้แนะ...และขอบคุณพื้นที่แห่งนี้ครับ..]

เค้าบินขึ้นกำแพงที่เก่า...สบัดๆแล้วก็บินขึ้นต้นไม้ไปสบัดต่ออีกพักนึง...แล้วก็บินลับตาไป..
บรรดาพลซุ่มยิงทั้งหลายก็เก็บข้าวของร่ำลาแยกย้ายกันกลับ..แต่คงถึงบ้านช้ากันทุกคนครับ..
เพราะบนถนนสุขสวัสดิ์ตั้งแต่หน้าโรงงานไทยยาซากิยันสามแยกพระประแดงมีม็อบปิดถนนเพื่อเล่นสงกรานต์ครับ
ผมเองกว่าจะกะดึ๊บๆมาถึงวงแหวนกาญจนาภิเษกเพื่อข้ามสะพานมาฝั่งสำโรงได้ใช้เวลาไปราวชั่วโมงครึ่งเลย..
..ขอบคุณทุกท่านที่เยี่ยมชม+ชี้แนะ...และขอบคุณพื้นที่แห่งนี้ครับ..

เห็นภาพนกตัวนี้แล้ว  หมดอาลัยตายเงี่ยนเลยครับ ขอบอก

[ครับ..เค้าไม่สวย...แค่หายากเท่านั้นเอง..]

เห็นภาพนกตัวนี้แล้ว  หมดอาลัยตายเงี่ยนเลยครับ ขอบอก

ครับ..เค้าไม่สวย...แค่หายากเท่านั้นเอง..