เมษายน 19, 2024, 03:03:43 PM
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
*

คล้องช้าง
หน้า: 1   ลงล่าง
  พิมพ์  

  คล้องช้าง
ผู้เขียน ข้อความ
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกประจำ
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 166


บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: เมษายน 04, 2017, 08:59:04 PM »

ตั้งใจไปถ่ายนกที่แก่งกระจาน แต่เมื่อเช้ามืด จู่ๆดันไปเจอช้างที่กลางป่าเข้าให้ครับ เลยต้องทำการคล้องช้างกันใหญ่เลยครับ


* FRW_0559.JPG (397.08 KB, 1000x673 - ดู 351 ครั้ง.)


Share

แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

ผู้มีบุญก็เข้ามา  หมดวาสนาก็จากไป
chit_50
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1 เมื่อ: เมษายน 05, 2017, 04:30:49 AM »

...มันยอดมากเลย...
......ช่วงเวลาเท่าไหร่ครับ...
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกประจำ
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 166


บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป


ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: เมษายน 05, 2017, 07:54:46 AM »

...มันยอดมากเลย...
......ช่วงเวลาเท่าไหร่ครับ...


ผมเริ่มถ่ายภาพแรกราวตี 4 ครับ  แต่ภาพที่ลงนี้ น่าจะราวๆตี 5 กว่าๆแล้วครับ  แสงทองทางด้านทิศตะวันออกเริ่มปรากฏแล้ว  ภาพสุดท้ายที่ถ่ายแบบโหนกันสุดๆ ต้องตั้งไวท์บาลานท์ไปที่ K 10000 ราวตี 5 ครึ่ง

วันนั้น ช่วงบ่ายๆ  ขณะถ่ายนกอยู่ โดนฝนไล่  เลยเก็บกล้องหนีฝนลงมาที่บ้านกร่าง  พรรคพวกที่ไปด้วยจองรีสอร์ตเอาไว้ เลยลงไปนอนรีสอร์ตกัน  ผมกับน้ายอดไม่อยากวิ่งลง วิ่งขึ้น เลยขอนอนเต็นท์ที่บ้านกร่าง

หลังอาหารเย็น  ผมเงยหน้ามองฟ้า เพราะนอนเต็นท์หากฝนเทลงมาจะลำบาก  แต่มองเห็นดาวหลายดวงแทน  พอสัก 2 ทุ่ม  พระจันทร์เสี้ยวอยู่กลางศรีษะเลยไปเอาเลนส์กลับกล้องมาส่องพระจันทร์เสี้ยว ใจก็นึกอยู่ว่า  คืนนี้ พระจันทร์น่าจะตกราวๆเที่ยงคืน

หากโชคดี ฟ้าเปิด  ช่วงเช้าตรู่  ทางช้างเผือกน่าจะสูงพอควร  หากฟ้าเป็นใจจะมีโอกาสได้เก็บช้าง  คุยกับน้ายอดว่า ตี 3 จะตื่นขึ้นมาดูว่าถ่ายได้ไหม  จากนั้นก็เข้านอน

เที่ยงคืน ผมตื่นเข้าห้องน้ำ  ฟ้าเปิดโล่ง  พระจันทร์คล้อยลับเหลี่ยมเขาไปแล้ว  ทั่วบริเวณมืดมิด ยกเว้นมีแสงสว่างที่หน้าห้องน้ำเท่านั้น  แต่ยังไม่เห็นช้าง  กลับเข้าเต็นท์ไปนอนต่อ

ราวตี 4  ผมตื่น ลุกขึ้นนั่ง  น้ายอดพึมพำมาจากในความมืดว่า  "ตอนตี 3 ข้าฯออกไปดูมารอบหนึ่งแล้ว  ไม่มีช้างปรากฏเลยสักตัว"  ว่าแล้วแกก็หันหลังนอนกรนต่อไป  ผมลุกออกจากเต็นท์เพราะปวดฉี่

พอเดินออกมานอกเต็นท์เท่านั้น  ก็เห็นช้างพาดผ่านท้องฟ้าเกือบเต็มตัวแล้ว  ผมรีบเข้าห้องน้ำ แล้วกลับไปที่รถ เตรียมอุปกรณ์ทันที  จากนั้นเดินไปหมุนหลอดไฟฟ้าที่หน้าห้องน้ำออกเพื่อให้มืดสนิทยิ่งขึ้น

ผมยกกล้องตั้งขาแล้วกดไปด้วยเลนส์ 16-35 ตั้งถ่ายที่ 16mm ก็กดไป 4-5 ใบ  ให้รู้สึกว่ามันเก็บช้างได้ไม่หมด  เลยเดินกลับไปที่รถอีกครั้งเพื่อจะหยิบเลนส์ฟิชอายมาแทน  

แต่.....  ไหนๆก็เดินมาที่รถแล้ว เดินเลยไปปลุกน้ายอดด้วยดีกว่า  เผื่อแกจะสนใจเจ้าช้างบนหัวบ้าง  เรียกน้ายอดอยู่หลายคำแกก็ไม่หือ ไม่อือ  แกคงหลับสนิทด้วยว่าเมื่อกลางวัน เดินถ่ายนกคงเหนื่อยมาก

ผมต้องเอื้อมมือไปตีขาแก  แกถึงรู้สึกตัว  ถามว่าสนใจจะถ่ายช้างไหม  แกยังบ่นว่า ตอนตี 3 ผมออกไปดูแล้ว มันไม่ขึ้นนี่  จะถ่ายยังไง  ผมตอบแกว่า ไม่ขึ้นยังไงล่ะ  มาเต็มท้องฟ้าเลย

แกกระเด้งขึ้นทันใด  โดดตามผมออกมา  เงยหน้าดูฟ้าแล้วตาลีตาเหลือกไปที่รถ เอาอุปกรณ์ออกมา  แต่กว่าจะตั้งกล้องได้ก็ทุลักทุเลไปพักใหญ่ เพราะความที่ไม่ได้เตรียมเนื้อเตรียมตัวมาถ่ายช้าง

จากนั้น เราสองคนก็เล่นกันจนสว่างคาตาครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 05, 2017, 07:57:11 AM โดย FRW » แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

ผู้มีบุญก็เข้ามา  หมดวาสนาก็จากไป
chit_50
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #3 เมื่อ: เมษายน 06, 2017, 04:51:41 AM »

...มันยอดมากเลย...
......ช่วงเวลาเท่าไหร่ครับ...


ผมเริ่มถ่ายภาพแรกราวตี 4 ครับ  แต่ภาพที่ลงนี้ น่าจะราวๆตี 5 กว่าๆแล้วครับ  แสงทองทางด้านทิศตะวันออกเริ่มปรากฏแล้ว  ภาพสุดท้ายที่ถ่ายแบบโหนกันสุดๆ ต้องตั้งไวท์บาลานท์ไปที่ K 10000 ราวตี 5 ครึ่ง

วันนั้น ช่วงบ่ายๆ  ขณะถ่ายนกอยู่ โดนฝนไล่  เลยเก็บกล้องหนีฝนลงมาที่บ้านกร่าง  พรรคพวกที่ไปด้วยจองรีสอร์ตเอาไว้ เลยลงไปนอนรีสอร์ตกัน  ผมกับน้ายอดไม่อยากวิ่งลง วิ่งขึ้น เลยขอนอนเต็นท์ที่บ้านกร่าง

หลังอาหารเย็น  ผมเงยหน้ามองฟ้า เพราะนอนเต็นท์หากฝนเทลงมาจะลำบาก  แต่มองเห็นดาวหลายดวงแทน  พอสัก 2 ทุ่ม  พระจันทร์เสี้ยวอยู่กลางศรีษะเลยไปเอาเลนส์กลับกล้องมาส่องพระจันทร์เสี้ยว ใจก็นึกอยู่ว่า  คืนนี้ พระจันทร์น่าจะตกราวๆเที่ยงคืน

หากโชคดี ฟ้าเปิด  ช่วงเช้าตรู่  ทางช้างเผือกน่าจะสูงพอควร  หากฟ้าเป็นใจจะมีโอกาสได้เก็บช้าง  คุยกับน้ายอดว่า ตี 3 จะตื่นขึ้นมาดูว่าถ่ายได้ไหม  จากนั้นก็เข้านอน

เที่ยงคืน ผมตื่นเข้าห้องน้ำ  ฟ้าเปิดโล่ง  พระจันทร์คล้อยลับเหลี่ยมเขาไปแล้ว  ทั่วบริเวณมืดมิด ยกเว้นมีแสงสว่างที่หน้าห้องน้ำเท่านั้น  แต่ยังไม่เห็นช้าง  กลับเข้าเต็นท์ไปนอนต่อ

ราวตี 4  ผมตื่น ลุกขึ้นนั่ง  น้ายอดพึมพำมาจากในความมืดว่า  "ตอนตี 3 ข้าฯออกไปดูมารอบหนึ่งแล้ว  ไม่มีช้างปรากฏเลยสักตัว"  ว่าแล้วแกก็หันหลังนอนกรนต่อไป  ผมลุกออกจากเต็นท์เพราะปวดฉี่

พอเดินออกมานอกเต็นท์เท่านั้น  ก็เห็นช้างพาดผ่านท้องฟ้าเกือบเต็มตัวแล้ว  ผมรีบเข้าห้องน้ำ แล้วกลับไปที่รถ เตรียมอุปกรณ์ทันที  จากนั้นเดินไปหมุนหลอดไฟฟ้าที่หน้าห้องน้ำออกเพื่อให้มืดสนิทยิ่งขึ้น

ผมยกกล้องตั้งขาแล้วกดไปด้วยเลนส์ 16-35 ตั้งถ่ายที่ 16mm ก็กดไป 4-5 ใบ  ให้รู้สึกว่ามันเก็บช้างได้ไม่หมด  เลยเดินกลับไปที่รถอีกครั้งเพื่อจะหยิบเลนส์ฟิชอายมาแทน  

แต่.....  ไหนๆก็เดินมาที่รถแล้ว เดินเลยไปปลุกน้ายอดด้วยดีกว่า  เผื่อแกจะสนใจเจ้าช้างบนหัวบ้าง  เรียกน้ายอดอยู่หลายคำแกก็ไม่หือ ไม่อือ  แกคงหลับสนิทด้วยว่าเมื่อกลางวัน เดินถ่ายนกคงเหนื่อยมาก

ผมต้องเอื้อมมือไปตีขาแก  แกถึงรู้สึกตัว  ถามว่าสนใจจะถ่ายช้างไหม  แกยังบ่นว่า ตอนตี 3 ผมออกไปดูแล้ว มันไม่ขึ้นนี่  จะถ่ายยังไง  ผมตอบแกว่า ไม่ขึ้นยังไงล่ะ  มาเต็มท้องฟ้าเลย

แกกระเด้งขึ้นทันใด  โดดตามผมออกมา  เงยหน้าดูฟ้าแล้วตาลีตาเหลือกไปที่รถ เอาอุปกรณ์ออกมา  แต่กว่าจะตั้งกล้องได้ก็ทุลักทุเลไปพักใหญ่ เพราะความที่ไม่ได้เตรียมเนื้อเตรียมตัวมาถ่ายช้าง

จากนั้น เราสองคนก็เล่นกันจนสว่างคาตาครับ
...ขอบคุณครับ...
...นี่ถ้าน้ายอดไม่ลุกขึ้นมาถ่าย คงเสียดายแย่เลยนะครับ...
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกประจำ
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 166


บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป


ดูรายละเอียด
« ตอบ #4 เมื่อ: เมษายน 06, 2017, 07:21:10 AM »

...มันยอดมากเลย...
......ช่วงเวลาเท่าไหร่ครับ...


ผมเริ่มถ่ายภาพแรกราวตี 4 ครับ  แต่ภาพที่ลงนี้ น่าจะราวๆตี 5 กว่าๆแล้วครับ  แสงทองทางด้านทิศตะวันออกเริ่มปรากฏแล้ว  ภาพสุดท้ายที่ถ่ายแบบโหนกันสุดๆ ต้องตั้งไวท์บาลานท์ไปที่ K 10000 ราวตี 5 ครึ่ง

วันนั้น ช่วงบ่ายๆ  ขณะถ่ายนกอยู่ โดนฝนไล่  เลยเก็บกล้องหนีฝนลงมาที่บ้านกร่าง  พรรคพวกที่ไปด้วยจองรีสอร์ตเอาไว้ เลยลงไปนอนรีสอร์ตกัน  ผมกับน้ายอดไม่อยากวิ่งลง วิ่งขึ้น เลยขอนอนเต็นท์ที่บ้านกร่าง

หลังอาหารเย็น  ผมเงยหน้ามองฟ้า เพราะนอนเต็นท์หากฝนเทลงมาจะลำบาก  แต่มองเห็นดาวหลายดวงแทน  พอสัก 2 ทุ่ม  พระจันทร์เสี้ยวอยู่กลางศรีษะเลยไปเอาเลนส์กลับกล้องมาส่องพระจันทร์เสี้ยว ใจก็นึกอยู่ว่า  คืนนี้ พระจันทร์น่าจะตกราวๆเที่ยงคืน

หากโชคดี ฟ้าเปิด  ช่วงเช้าตรู่  ทางช้างเผือกน่าจะสูงพอควร  หากฟ้าเป็นใจจะมีโอกาสได้เก็บช้าง  คุยกับน้ายอดว่า ตี 3 จะตื่นขึ้นมาดูว่าถ่ายได้ไหม  จากนั้นก็เข้านอน

เที่ยงคืน ผมตื่นเข้าห้องน้ำ  ฟ้าเปิดโล่ง  พระจันทร์คล้อยลับเหลี่ยมเขาไปแล้ว  ทั่วบริเวณมืดมิด ยกเว้นมีแสงสว่างที่หน้าห้องน้ำเท่านั้น  แต่ยังไม่เห็นช้าง  กลับเข้าเต็นท์ไปนอนต่อ

ราวตี 4  ผมตื่น ลุกขึ้นนั่ง  น้ายอดพึมพำมาจากในความมืดว่า  "ตอนตี 3 ข้าฯออกไปดูมารอบหนึ่งแล้ว  ไม่มีช้างปรากฏเลยสักตัว"  ว่าแล้วแกก็หันหลังนอนกรนต่อไป  ผมลุกออกจากเต็นท์เพราะปวดฉี่

พอเดินออกมานอกเต็นท์เท่านั้น  ก็เห็นช้างพาดผ่านท้องฟ้าเกือบเต็มตัวแล้ว  ผมรีบเข้าห้องน้ำ แล้วกลับไปที่รถ เตรียมอุปกรณ์ทันที  จากนั้นเดินไปหมุนหลอดไฟฟ้าที่หน้าห้องน้ำออกเพื่อให้มืดสนิทยิ่งขึ้น

ผมยกกล้องตั้งขาแล้วกดไปด้วยเลนส์ 16-35 ตั้งถ่ายที่ 16mm ก็กดไป 4-5 ใบ  ให้รู้สึกว่ามันเก็บช้างได้ไม่หมด  เลยเดินกลับไปที่รถอีกครั้งเพื่อจะหยิบเลนส์ฟิชอายมาแทน  

แต่.....  ไหนๆก็เดินมาที่รถแล้ว เดินเลยไปปลุกน้ายอดด้วยดีกว่า  เผื่อแกจะสนใจเจ้าช้างบนหัวบ้าง  เรียกน้ายอดอยู่หลายคำแกก็ไม่หือ ไม่อือ  แกคงหลับสนิทด้วยว่าเมื่อกลางวัน เดินถ่ายนกคงเหนื่อยมาก

ผมต้องเอื้อมมือไปตีขาแก  แกถึงรู้สึกตัว  ถามว่าสนใจจะถ่ายช้างไหม  แกยังบ่นว่า ตอนตี 3 ผมออกไปดูแล้ว มันไม่ขึ้นนี่  จะถ่ายยังไง  ผมตอบแกว่า ไม่ขึ้นยังไงล่ะ  มาเต็มท้องฟ้าเลย

แกกระเด้งขึ้นทันใด  โดดตามผมออกมา  เงยหน้าดูฟ้าแล้วตาลีตาเหลือกไปที่รถ เอาอุปกรณ์ออกมา  แต่กว่าจะตั้งกล้องได้ก็ทุลักทุเลไปพักใหญ่ เพราะความที่ไม่ได้เตรียมเนื้อเตรียมตัวมาถ่ายช้าง

จากนั้น เราสองคนก็เล่นกันจนสว่างคาตาครับ
...ขอบคุณครับ...
...นี่ถ้าน้ายอดไม่ลุกขึ้นมาถ่าย คงเสียดายแย่เลยนะครับ...


หุๆๆๆ   ถ้าเป็นน้าชิต  น้าจะว่าไงล่ะครับ

เมื่อวาน....  ผมกลับไปนั่งกินข้าวเที่ยงที่ข้างอ่างซับเหล็กอีกครั้ง  แต่ไม่ได้เข้าไปในรีสอร์ตครับ  ไปมองหาโลเกชั่นแถวนั้น เพราะคืนนั้นที่เราเข้าไปมันมืดมาก ออกมาก็ยังไม่ทันสว่าง เลยไม่ได้เห็นอะไรเลย

ขับรถวนๆรอบๆอ่าง  เห็นมุมดีๆเพิ่มมาอีก 2-3 จุด  น้าชิตคงรู้นะครับว่า  ผมหมายถึงอะไร อิๆ  สนใจ หมาย.....ครับ

ผมกะว่า สายๆวันเสาร์ที่ 29 เมษา  จะกลับไปอีกทีครับ

แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

ผู้มีบุญก็เข้ามา  หมดวาสนาก็จากไป
e21rts
ผู้ดูแลเว็บ
แฟนพันธ์แท้ SPC
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,238


e21rts@outlook.co.th


ดูรายละเอียด
« ตอบ #5 เมื่อ: เมษายน 06, 2017, 09:30:33 PM »

เร็วแท้...ของผมยังไม่มีเวลาดูเลย..
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

++คติเตือนตน++คำว่า"คนดี"..คือคำที่มีไว้เรียกคนโง่ให้ฟังสวยหรูดูดีมีเกียรติ...เพื่อหลอกให้มันหลงภาคภูมิใจ...และตั้งหน้าตั้งตาทำเรื่องโง่ๆของมันต่อไป..
chit_50
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #6 เมื่อ: เมษายน 07, 2017, 04:50:23 AM »

...มันยอดมากเลย...
......ช่วงเวลาเท่าไหร่ครับ...

ผมเริ่มถ่ายภาพแรกราวตี 4 ครับ  แต่ภาพที่ลงนี้ น่าจะราวๆตี 5 กว่าๆแล้วครับ  แสงทองทางด้านทิศตะวันออกเริ่มปรากฏแล้ว  ภาพสุดท้ายที่ถ่ายแบบโหนกันสุดๆ ต้องตั้งไวท์บาลานท์ไปที่ K 10000 ราวตี 5 ครึ่ง
วันนั้น ช่วงบ่ายๆ  ขณะถ่ายนกอยู่ โดนฝนไล่  เลยเก็บกล้องหนีฝนลงมาที่บ้านกร่าง  พรรคพวกที่ไปด้วยจองรีสอร์ตเอาไว้ เลยลงไปนอนรีสอร์ตกัน  ผมกับน้ายอดไม่อยากวิ่งลง วิ่งขึ้น เลยขอนอนเต็นท์ที่บ้านกร่าง
หลังอาหารเย็น  ผมเงยหน้ามองฟ้า เพราะนอนเต็นท์หากฝนเทลงมาจะลำบาก  แต่มองเห็นดาวหลายดวงแทน  พอสัก 2 ทุ่ม  พระจันทร์เสี้ยวอยู่กลางศรีษะเลยไปเอาเลนส์กลับกล้องมาส่องพระจันทร์เสี้ยว ใจก็นึกอยู่ว่า  คืนนี้ พระจันทร์น่าจะตกราวๆเที่ยงคืน
หากโชคดี ฟ้าเปิด  ช่วงเช้าตรู่  ทางช้างเผือกน่าจะสูงพอควร  หากฟ้าเป็นใจจะมีโอกาสได้เก็บช้าง  คุยกับน้ายอดว่า ตี 3 จะตื่นขึ้นมาดูว่าถ่ายได้ไหม  จากนั้นก็เข้านอน
เที่ยงคืน ผมตื่นเข้าห้องน้ำ  ฟ้าเปิดโล่ง  พระจันทร์คล้อยลับเหลี่ยมเขาไปแล้ว  ทั่วบริเวณมืดมิด ยกเว้นมีแสงสว่างที่หน้าห้องน้ำเท่านั้น  แต่ยังไม่เห็นช้าง  กลับเข้าเต็นท์ไปนอนต่อ
ราวตี 4  ผมตื่น ลุกขึ้นนั่ง  น้ายอดพึมพำมาจากในความมืดว่า  "ตอนตี 3 ข้าฯออกไปดูมารอบหนึ่งแล้ว  ไม่มีช้างปรากฏเลยสักตัว"  ว่าแล้วแกก็หันหลังนอนกรนต่อไป  ผมลุกออกจากเต็นท์เพราะปวดฉี่
พอเดินออกมานอกเต็นท์เท่านั้น  ก็เห็นช้างพาดผ่านท้องฟ้าเกือบเต็มตัวแล้ว  ผมรีบเข้าห้องน้ำ แล้วกลับไปที่รถ เตรียมอุปกรณ์ทันที  จากนั้นเดินไปหมุนหลอดไฟฟ้าที่หน้าห้องน้ำออกเพื่อให้มืดสนิทยิ่งขึ้น
ผมยกกล้องตั้งขาแล้วกดไปด้วยเลนส์ 16-35 ตั้งถ่ายที่ 16mm ก็กดไป 4-5 ใบ  ให้รู้สึกว่ามันเก็บช้างได้ไม่หมด  เลยเดินกลับไปที่รถอีกครั้งเพื่อจะหยิบเลนส์ฟิชอายมาแทน  
แต่.....  ไหนๆก็เดินมาที่รถแล้ว เดินเลยไปปลุกน้ายอดด้วยดีกว่า  เผื่อแกจะสนใจเจ้าช้างบนหัวบ้าง  เรียกน้ายอดอยู่หลายคำแกก็ไม่หือ ไม่อือ  แกคงหลับสนิทด้วยว่าเมื่อกลางวัน เดินถ่ายนกคงเหนื่อยมาก
ผมต้องเอื้อมมือไปตีขาแก  แกถึงรู้สึกตัว  ถามว่าสนใจจะถ่ายช้างไหม  แกยังบ่นว่า ตอนตี 3 ผมออกไปดูแล้ว มันไม่ขึ้นนี่  จะถ่ายยังไง  ผมตอบแกว่า ไม่ขึ้นยังไงล่ะ  มาเต็มท้องฟ้าเลย
แกกระเด้งขึ้นทันใด  โดดตามผมออกมา  เงยหน้าดูฟ้าแล้วตาลีตาเหลือกไปที่รถ เอาอุปกรณ์ออกมา  แต่กว่าจะตั้งกล้องได้ก็ทุลักทุเลไปพักใหญ่ เพราะความที่ไม่ได้เตรียมเนื้อเตรียมตัวมาถ่ายช้าง
จากนั้น เราสองคนก็เล่นกันจนสว่างคาตาครับ
...ขอบคุณครับ...
...นี่ถ้าน้ายอดไม่ลุกขึ้นมาถ่าย คงเสียดายแย่เลยนะครับ...

หุๆๆๆ   ถ้าเป็นน้าชิต  น้าจะว่าไงล่ะครับ
เมื่อวาน....  ผมกลับไปนั่งกินข้าวเที่ยงที่ข้างอ่างซับเหล็กอีกครั้ง  แต่ไม่ได้เข้าไปในรีสอร์ตครับ  ไปมองหาโลเกชั่นแถวนั้น เพราะคืนนั้นที่เราเข้าไปมันมืดมาก ออกมาก็ยังไม่ทันสว่าง เลยไม่ได้เห็นอะไรเลย
ขับรถวนๆรอบๆอ่าง  เห็นมุมดีๆเพิ่มมาอีก 2-3 จุด  น้าชิตคงรู้นะครับว่า  ผมหมายถึงอะไร อิๆ  สนใจ หมาย.....ครับ
ผมกะว่า สายๆวันเสาร์ที่ 29 เมษา  จะกลับไปอีกทีครับ
...เสียดายจังเลยครับ ผมขึ้นดอยอินท์ฯกับน้าเล็ก ให้น้าเล็กจองให้หลังจากกลับจากลพบุรี // เสียดายจังเลยครับ...
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกประจำ
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 166


บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป


ดูรายละเอียด
« ตอบ #7 เมื่อ: เมษายน 13, 2017, 10:40:43 AM »

...มันยอดมากเลย...
......ช่วงเวลาเท่าไหร่ครับ...

ผมเริ่มถ่ายภาพแรกราวตี 4 ครับ  แต่ภาพที่ลงนี้ น่าจะราวๆตี 5 กว่าๆแล้วครับ  แสงทองทางด้านทิศตะวันออกเริ่มปรากฏแล้ว  ภาพสุดท้ายที่ถ่ายแบบโหนกันสุดๆ ต้องตั้งไวท์บาลานท์ไปที่ K 10000 ราวตี 5 ครึ่ง
วันนั้น ช่วงบ่ายๆ  ขณะถ่ายนกอยู่ โดนฝนไล่  เลยเก็บกล้องหนีฝนลงมาที่บ้านกร่าง  พรรคพวกที่ไปด้วยจองรีสอร์ตเอาไว้ เลยลงไปนอนรีสอร์ตกัน  ผมกับน้ายอดไม่อยากวิ่งลง วิ่งขึ้น เลยขอนอนเต็นท์ที่บ้านกร่าง
หลังอาหารเย็น  ผมเงยหน้ามองฟ้า เพราะนอนเต็นท์หากฝนเทลงมาจะลำบาก  แต่มองเห็นดาวหลายดวงแทน  พอสัก 2 ทุ่ม  พระจันทร์เสี้ยวอยู่กลางศรีษะเลยไปเอาเลนส์กลับกล้องมาส่องพระจันทร์เสี้ยว ใจก็นึกอยู่ว่า  คืนนี้ พระจันทร์น่าจะตกราวๆเที่ยงคืน
หากโชคดี ฟ้าเปิด  ช่วงเช้าตรู่  ทางช้างเผือกน่าจะสูงพอควร  หากฟ้าเป็นใจจะมีโอกาสได้เก็บช้าง  คุยกับน้ายอดว่า ตี 3 จะตื่นขึ้นมาดูว่าถ่ายได้ไหม  จากนั้นก็เข้านอน
เที่ยงคืน ผมตื่นเข้าห้องน้ำ  ฟ้าเปิดโล่ง  พระจันทร์คล้อยลับเหลี่ยมเขาไปแล้ว  ทั่วบริเวณมืดมิด ยกเว้นมีแสงสว่างที่หน้าห้องน้ำเท่านั้น  แต่ยังไม่เห็นช้าง  กลับเข้าเต็นท์ไปนอนต่อ
ราวตี 4  ผมตื่น ลุกขึ้นนั่ง  น้ายอดพึมพำมาจากในความมืดว่า  "ตอนตี 3 ข้าฯออกไปดูมารอบหนึ่งแล้ว  ไม่มีช้างปรากฏเลยสักตัว"  ว่าแล้วแกก็หันหลังนอนกรนต่อไป  ผมลุกออกจากเต็นท์เพราะปวดฉี่
พอเดินออกมานอกเต็นท์เท่านั้น  ก็เห็นช้างพาดผ่านท้องฟ้าเกือบเต็มตัวแล้ว  ผมรีบเข้าห้องน้ำ แล้วกลับไปที่รถ เตรียมอุปกรณ์ทันที  จากนั้นเดินไปหมุนหลอดไฟฟ้าที่หน้าห้องน้ำออกเพื่อให้มืดสนิทยิ่งขึ้น
ผมยกกล้องตั้งขาแล้วกดไปด้วยเลนส์ 16-35 ตั้งถ่ายที่ 16mm ก็กดไป 4-5 ใบ  ให้รู้สึกว่ามันเก็บช้างได้ไม่หมด  เลยเดินกลับไปที่รถอีกครั้งเพื่อจะหยิบเลนส์ฟิชอายมาแทน  
แต่.....  ไหนๆก็เดินมาที่รถแล้ว เดินเลยไปปลุกน้ายอดด้วยดีกว่า  เผื่อแกจะสนใจเจ้าช้างบนหัวบ้าง  เรียกน้ายอดอยู่หลายคำแกก็ไม่หือ ไม่อือ  แกคงหลับสนิทด้วยว่าเมื่อกลางวัน เดินถ่ายนกคงเหนื่อยมาก
ผมต้องเอื้อมมือไปตีขาแก  แกถึงรู้สึกตัว  ถามว่าสนใจจะถ่ายช้างไหม  แกยังบ่นว่า ตอนตี 3 ผมออกไปดูแล้ว มันไม่ขึ้นนี่  จะถ่ายยังไง  ผมตอบแกว่า ไม่ขึ้นยังไงล่ะ  มาเต็มท้องฟ้าเลย
แกกระเด้งขึ้นทันใด  โดดตามผมออกมา  เงยหน้าดูฟ้าแล้วตาลีตาเหลือกไปที่รถ เอาอุปกรณ์ออกมา  แต่กว่าจะตั้งกล้องได้ก็ทุลักทุเลไปพักใหญ่ เพราะความที่ไม่ได้เตรียมเนื้อเตรียมตัวมาถ่ายช้าง
จากนั้น เราสองคนก็เล่นกันจนสว่างคาตาครับ
...ขอบคุณครับ...
...นี่ถ้าน้ายอดไม่ลุกขึ้นมาถ่าย คงเสียดายแย่เลยนะครับ...

หุๆๆๆ   ถ้าเป็นน้าชิต  น้าจะว่าไงล่ะครับ
เมื่อวาน....  ผมกลับไปนั่งกินข้าวเที่ยงที่ข้างอ่างซับเหล็กอีกครั้ง  แต่ไม่ได้เข้าไปในรีสอร์ตครับ  ไปมองหาโลเกชั่นแถวนั้น เพราะคืนนั้นที่เราเข้าไปมันมืดมาก ออกมาก็ยังไม่ทันสว่าง เลยไม่ได้เห็นอะไรเลย
ขับรถวนๆรอบๆอ่าง  เห็นมุมดีๆเพิ่มมาอีก 2-3 จุด  น้าชิตคงรู้นะครับว่า  ผมหมายถึงอะไร อิๆ  สนใจ หมาย.....ครับ
ผมกะว่า สายๆวันเสาร์ที่ 29 เมษา  จะกลับไปอีกทีครับ
...เสียดายจังเลยครับ ผมขึ้นดอยอินท์ฯกับน้าเล็ก ให้น้าเล็กจองให้หลังจากกลับจากลพบุรี // เสียดายจังเลยครับ...

555  ถ้าอย่างนั้น น้าชิตคงไม่ต้องเสียดายหรอกครับ เพราะหมาย.... ของน้าชิต อลังการณ์กว่าผมเยอะ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

ผู้มีบุญก็เข้ามา  หมดวาสนาก็จากไป
chit_50
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #8 เมื่อ: เมษายน 15, 2017, 07:20:25 AM »

...มันยอดมากเลย...
......ช่วงเวลาเท่าไหร่ครับ...

ผมเริ่มถ่ายภาพแรกราวตี 4 ครับ  แต่ภาพที่ลงนี้ น่าจะราวๆตี 5 กว่าๆแล้วครับ  แสงทองทางด้านทิศตะวันออกเริ่มปรากฏแล้ว  ภาพสุดท้ายที่ถ่ายแบบโหนกันสุดๆ ต้องตั้งไวท์บาลานท์ไปที่ K 10000 ราวตี 5 ครึ่ง
วันนั้น ช่วงบ่ายๆ  ขณะถ่ายนกอยู่ โดนฝนไล่  เลยเก็บกล้องหนีฝนลงมาที่บ้านกร่าง  พรรคพวกที่ไปด้วยจองรีสอร์ตเอาไว้ เลยลงไปนอนรีสอร์ตกัน  ผมกับน้ายอดไม่อยากวิ่งลง วิ่งขึ้น เลยขอนอนเต็นท์ที่บ้านกร่าง
หลังอาหารเย็น  ผมเงยหน้ามองฟ้า เพราะนอนเต็นท์หากฝนเทลงมาจะลำบาก  แต่มองเห็นดาวหลายดวงแทน  พอสัก 2 ทุ่ม  พระจันทร์เสี้ยวอยู่กลางศรีษะเลยไปเอาเลนส์กลับกล้องมาส่องพระจันทร์เสี้ยว ใจก็นึกอยู่ว่า  คืนนี้ พระจันทร์น่าจะตกราวๆเที่ยงคืน
หากโชคดี ฟ้าเปิด  ช่วงเช้าตรู่  ทางช้างเผือกน่าจะสูงพอควร  หากฟ้าเป็นใจจะมีโอกาสได้เก็บช้าง  คุยกับน้ายอดว่า ตี 3 จะตื่นขึ้นมาดูว่าถ่ายได้ไหม  จากนั้นก็เข้านอน
เที่ยงคืน ผมตื่นเข้าห้องน้ำ  ฟ้าเปิดโล่ง  พระจันทร์คล้อยลับเหลี่ยมเขาไปแล้ว  ทั่วบริเวณมืดมิด ยกเว้นมีแสงสว่างที่หน้าห้องน้ำเท่านั้น  แต่ยังไม่เห็นช้าง  กลับเข้าเต็นท์ไปนอนต่อ
ราวตี 4  ผมตื่น ลุกขึ้นนั่ง  น้ายอดพึมพำมาจากในความมืดว่า  "ตอนตี 3 ข้าฯออกไปดูมารอบหนึ่งแล้ว  ไม่มีช้างปรากฏเลยสักตัว"  ว่าแล้วแกก็หันหลังนอนกรนต่อไป  ผมลุกออกจากเต็นท์เพราะปวดฉี่
พอเดินออกมานอกเต็นท์เท่านั้น  ก็เห็นช้างพาดผ่านท้องฟ้าเกือบเต็มตัวแล้ว  ผมรีบเข้าห้องน้ำ แล้วกลับไปที่รถ เตรียมอุปกรณ์ทันที  จากนั้นเดินไปหมุนหลอดไฟฟ้าที่หน้าห้องน้ำออกเพื่อให้มืดสนิทยิ่งขึ้น
ผมยกกล้องตั้งขาแล้วกดไปด้วยเลนส์ 16-35 ตั้งถ่ายที่ 16mm ก็กดไป 4-5 ใบ  ให้รู้สึกว่ามันเก็บช้างได้ไม่หมด  เลยเดินกลับไปที่รถอีกครั้งเพื่อจะหยิบเลนส์ฟิชอายมาแทน  
แต่.....  ไหนๆก็เดินมาที่รถแล้ว เดินเลยไปปลุกน้ายอดด้วยดีกว่า  เผื่อแกจะสนใจเจ้าช้างบนหัวบ้าง  เรียกน้ายอดอยู่หลายคำแกก็ไม่หือ ไม่อือ  แกคงหลับสนิทด้วยว่าเมื่อกลางวัน เดินถ่ายนกคงเหนื่อยมาก
ผมต้องเอื้อมมือไปตีขาแก  แกถึงรู้สึกตัว  ถามว่าสนใจจะถ่ายช้างไหม  แกยังบ่นว่า ตอนตี 3 ผมออกไปดูแล้ว มันไม่ขึ้นนี่  จะถ่ายยังไง  ผมตอบแกว่า ไม่ขึ้นยังไงล่ะ  มาเต็มท้องฟ้าเลย
แกกระเด้งขึ้นทันใด  โดดตามผมออกมา  เงยหน้าดูฟ้าแล้วตาลีตาเหลือกไปที่รถ เอาอุปกรณ์ออกมา  แต่กว่าจะตั้งกล้องได้ก็ทุลักทุเลไปพักใหญ่ เพราะความที่ไม่ได้เตรียมเนื้อเตรียมตัวมาถ่ายช้าง
จากนั้น เราสองคนก็เล่นกันจนสว่างคาตาครับ
...ขอบคุณครับ...
...นี่ถ้าน้ายอดไม่ลุกขึ้นมาถ่าย คงเสียดายแย่เลยนะครับ...

หุๆๆๆ   ถ้าเป็นน้าชิต  น้าจะว่าไงล่ะครับ
เมื่อวาน....  ผมกลับไปนั่งกินข้าวเที่ยงที่ข้างอ่างซับเหล็กอีกครั้ง  แต่ไม่ได้เข้าไปในรีสอร์ตครับ  ไปมองหาโลเกชั่นแถวนั้น เพราะคืนนั้นที่เราเข้าไปมันมืดมาก ออกมาก็ยังไม่ทันสว่าง เลยไม่ได้เห็นอะไรเลย
ขับรถวนๆรอบๆอ่าง  เห็นมุมดีๆเพิ่มมาอีก 2-3 จุด  น้าชิตคงรู้นะครับว่า  ผมหมายถึงอะไร อิๆ  สนใจ หมาย.....ครับ
ผมกะว่า สายๆวันเสาร์ที่ 29 เมษา  จะกลับไปอีกทีครับ
...เสียดายจังเลยครับ ผมขึ้นดอยอินท์ฯกับน้าเล็ก ให้น้าเล็กจองให้หลังจากกลับจากลพบุรี // เสียดายจังเลยครับ...
555  ถ้าอย่างนั้น น้าชิตคงไม่ต้องเสียดายหรอกครับ เพราะหมาย.... ของน้าชิต อลังการณ์กว่าผมเยอะ
...ยังไงก็ยังเสียดายครับ ร่วมทางกับผู้รู้ไจ ยังไงก็สนุกกว่า...
...ขอความรู้หน่อยครับ เจ้า 15mm fisheye จุด infinity มันอยู่ตรงไหนครับ...
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกประจำ
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 166


บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป


ดูรายละเอียด
« ตอบ #9 เมื่อ: เมษายน 16, 2017, 11:00:31 AM »

ขุดเอาช้างเมื่อวันที่ 4-4-60 มาให้ชมครับ

หลังจากที่ไปห้องน้ำแล้วก็ตาลีตาเหลือกเซทกล้องได้ก็กดมาเป็นใบแรกเลยครับ เวลา 4.18น. ช้างยังอยู่ค่อนข้างต่ำ แต่ก็พ้นยอดไม้มาแล้ว ที่เห็นแสงสีส้มๆนั่นทางด้านทิศตะวันออกครับ ไม่น่าจะเป็นแสงจากดวงอาทิตย์ แต่น่าจะเกิดจากทิศนั้นคงมีแสงไฟถนนที่อยู่ห่างไกลออกไปมากกว่า พอกระทบกับเมฆที่ลอยอยู่เบื้องบน เลยสะท้อนแสงมาเข้าเลนส์

ภาพนี้ ถ่ายด้วยเลนส์ 16mm F2.8 ISO 6400 30s หากขยายภาพให้ใหญ่ขึ้น จะเห็นว่า ดาวดวงเล็กๆ ยังมีอาการยืดอยู่นิดๆ ฉะนั้น จากสูตรที่ว่า กล้อง FF เอาเลข 600 ตั้งแล้วหารด้วยทางยาวโฟกัสของเลนส์ จะเป็นเวลาที่เหมาะสมในการถ่ายดาวนั้น จึงยังไม่ค่อยสมบูรณ์มากนัก ผมว่าหากจะให้ดี ควรเป็นเลข 400 สำหรับกล้อง FF มากกว่า
600/16=37.5 นี่ตั้งแค่ 30s ดาวเล็กๆก็เริ่มยืดแล้ว หากเป็น 37.5 คงยืดยาวกว่านี้เป็นแน่
400/16=25 หากตั้งที่ความเร็ว 25 s ดาวคงยืดน้อยกว่านี้ น่าจะดีกว่าครับ


* FRW_0537.JPG (396.75 KB, 1000x673 - ดู 42 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

ผู้มีบุญก็เข้ามา  หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกประจำ
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 166


บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป


ดูรายละเอียด
« ตอบ #10 เมื่อ: เมษายน 16, 2017, 11:01:21 AM »

ภาพนี้ ขยับมุมหลบแสงทางทิศตะวันออกไปทางใต้อีกนิด แต่สรุปว่าเลนส์ 16mm เก็บช้างได้ไม่ครบตัวแน่ๆ หากต้องใช้เลนส์ขนาดนี้ คงต้องถ้ายแบบพานอราม่าแล้วเอาไปต่อกัน ทำให้นึกถึงเลนส์ 11-24mm ของแคนนอนขึ้นมาตะหงิดๆ ใครมีถูกๆบ้างครับ อยากได้แล้วครับ


* FRW_0538.JPG (393.73 KB, 1000x673 - ดู 43 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

ผู้มีบุญก็เข้ามา  หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกประจำ
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 166


บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป


ดูรายละเอียด
« ตอบ #11 เมื่อ: เมษายน 16, 2017, 11:09:35 AM »

...มันยอดมากเลย...
......ช่วงเวลาเท่าไหร่ครับ...

ผมเริ่มถ่ายภาพแรกราวตี 4 ครับ  แต่ภาพที่ลงนี้ น่าจะราวๆตี 5 กว่าๆแล้วครับ  แสงทองทางด้านทิศตะวันออกเริ่มปรากฏแล้ว  ภาพสุดท้ายที่ถ่ายแบบโหนกันสุดๆ ต้องตั้งไวท์บาลานท์ไปที่ K 10000 ราวตี 5 ครึ่ง
วันนั้น ช่วงบ่ายๆ  ขณะถ่ายนกอยู่ โดนฝนไล่  เลยเก็บกล้องหนีฝนลงมาที่บ้านกร่าง  พรรคพวกที่ไปด้วยจองรีสอร์ตเอาไว้ เลยลงไปนอนรีสอร์ตกัน  ผมกับน้ายอดไม่อยากวิ่งลง วิ่งขึ้น เลยขอนอนเต็นท์ที่บ้านกร่าง
หลังอาหารเย็น  ผมเงยหน้ามองฟ้า เพราะนอนเต็นท์หากฝนเทลงมาจะลำบาก  แต่มองเห็นดาวหลายดวงแทน  พอสัก 2 ทุ่ม  พระจันทร์เสี้ยวอยู่กลางศรีษะเลยไปเอาเลนส์กลับกล้องมาส่องพระจันทร์เสี้ยว ใจก็นึกอยู่ว่า  คืนนี้ พระจันทร์น่าจะตกราวๆเที่ยงคืน
หากโชคดี ฟ้าเปิด  ช่วงเช้าตรู่  ทางช้างเผือกน่าจะสูงพอควร  หากฟ้าเป็นใจจะมีโอกาสได้เก็บช้าง  คุยกับน้ายอดว่า ตี 3 จะตื่นขึ้นมาดูว่าถ่ายได้ไหม  จากนั้นก็เข้านอน
เที่ยงคืน ผมตื่นเข้าห้องน้ำ  ฟ้าเปิดโล่ง  พระจันทร์คล้อยลับเหลี่ยมเขาไปแล้ว  ทั่วบริเวณมืดมิด ยกเว้นมีแสงสว่างที่หน้าห้องน้ำเท่านั้น  แต่ยังไม่เห็นช้าง  กลับเข้าเต็นท์ไปนอนต่อ
ราวตี 4  ผมตื่น ลุกขึ้นนั่ง  น้ายอดพึมพำมาจากในความมืดว่า  "ตอนตี 3 ข้าฯออกไปดูมารอบหนึ่งแล้ว  ไม่มีช้างปรากฏเลยสักตัว"  ว่าแล้วแกก็หันหลังนอนกรนต่อไป  ผมลุกออกจากเต็นท์เพราะปวดฉี่
พอเดินออกมานอกเต็นท์เท่านั้น  ก็เห็นช้างพาดผ่านท้องฟ้าเกือบเต็มตัวแล้ว  ผมรีบเข้าห้องน้ำ แล้วกลับไปที่รถ เตรียมอุปกรณ์ทันที  จากนั้นเดินไปหมุนหลอดไฟฟ้าที่หน้าห้องน้ำออกเพื่อให้มืดสนิทยิ่งขึ้น
ผมยกกล้องตั้งขาแล้วกดไปด้วยเลนส์ 16-35 ตั้งถ่ายที่ 16mm ก็กดไป 4-5 ใบ  ให้รู้สึกว่ามันเก็บช้างได้ไม่หมด  เลยเดินกลับไปที่รถอีกครั้งเพื่อจะหยิบเลนส์ฟิชอายมาแทน  
แต่.....  ไหนๆก็เดินมาที่รถแล้ว เดินเลยไปปลุกน้ายอดด้วยดีกว่า  เผื่อแกจะสนใจเจ้าช้างบนหัวบ้าง  เรียกน้ายอดอยู่หลายคำแกก็ไม่หือ ไม่อือ  แกคงหลับสนิทด้วยว่าเมื่อกลางวัน เดินถ่ายนกคงเหนื่อยมาก
ผมต้องเอื้อมมือไปตีขาแก  แกถึงรู้สึกตัว  ถามว่าสนใจจะถ่ายช้างไหม  แกยังบ่นว่า ตอนตี 3 ผมออกไปดูแล้ว มันไม่ขึ้นนี่  จะถ่ายยังไง  ผมตอบแกว่า ไม่ขึ้นยังไงล่ะ  มาเต็มท้องฟ้าเลย
แกกระเด้งขึ้นทันใด  โดดตามผมออกมา  เงยหน้าดูฟ้าแล้วตาลีตาเหลือกไปที่รถ เอาอุปกรณ์ออกมา  แต่กว่าจะตั้งกล้องได้ก็ทุลักทุเลไปพักใหญ่ เพราะความที่ไม่ได้เตรียมเนื้อเตรียมตัวมาถ่ายช้าง
จากนั้น เราสองคนก็เล่นกันจนสว่างคาตาครับ
...ขอบคุณครับ...
...นี่ถ้าน้ายอดไม่ลุกขึ้นมาถ่าย คงเสียดายแย่เลยนะครับ...

หุๆๆๆ   ถ้าเป็นน้าชิต  น้าจะว่าไงล่ะครับ
เมื่อวาน....  ผมกลับไปนั่งกินข้าวเที่ยงที่ข้างอ่างซับเหล็กอีกครั้ง  แต่ไม่ได้เข้าไปในรีสอร์ตครับ  ไปมองหาโลเกชั่นแถวนั้น เพราะคืนนั้นที่เราเข้าไปมันมืดมาก ออกมาก็ยังไม่ทันสว่าง เลยไม่ได้เห็นอะไรเลย
ขับรถวนๆรอบๆอ่าง  เห็นมุมดีๆเพิ่มมาอีก 2-3 จุด  น้าชิตคงรู้นะครับว่า  ผมหมายถึงอะไร อิๆ  สนใจ หมาย.....ครับ
ผมกะว่า สายๆวันเสาร์ที่ 29 เมษา  จะกลับไปอีกทีครับ
...เสียดายจังเลยครับ ผมขึ้นดอยอินท์ฯกับน้าเล็ก ให้น้าเล็กจองให้หลังจากกลับจากลพบุรี // เสียดายจังเลยครับ...
555  ถ้าอย่างนั้น น้าชิตคงไม่ต้องเสียดายหรอกครับ เพราะหมาย.... ของน้าชิต อลังการณ์กว่าผมเยอะ
...ยังไงก็ยังเสียดายครับ ร่วมทางกับผู้รู้ไจ ยังไงก็สนุกกว่า...
...ขอความรู้หน่อยครับ เจ้า 15mm fisheye จุด infinity มันอยู่ตรงไหนครับ...


มีวิธีหาจุดโฟกัส infinity ของเลนส์ทุกตัวได้ง่ายๆให้ทำอย่างนี้ครับ
1. หาในเวลากลางวันเอาไว้ก่อน โดยการเอาเลนส์ส่องไปที่ปุยเมฆให้มันโฟกัสแล้วเอาลงมาดูว่ามันหมุนอยู่ตรงไหนแล้วจำเอาไว้ครับ
2. หาในขณะที่จะถ่าย โดยการเอาไฟฉาย ฉายไปที่ยอดไม้ที่อยู่ห่างไกลออกไป แล้วเอาเลนส์ไปโฟกัสตรงนั้น จากนั้นปิดระบบออโต้โฟกัส เอาเลนส์ลงมาส่องดูว่ามันโฟกัสอยู่ตรงไหนแล้วจำเอาไว้ครับ (วิธีนี้ต้องระวัง หากอยู่รวมกันเป็นหมู่คณะใหญ่ เวลาจะฉายไฟควรคำนึงถึงหมู่คณะว่าจะรบกวนการถ่ายของคนอื่นๆหรือไม่)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

ผู้มีบุญก็เข้ามา  หมดวาสนาก็จากไป
chit_50
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #12 เมื่อ: เมษายน 17, 2017, 04:26:18 AM »

...ยังไงก็ยังเสียดายครับ ร่วมทางกับผู้รู้ไจ ยังไงก็สนุกกว่า...
...ขอความรู้หน่อยครับ เจ้า 15mm fisheye จุด infinity มันอยู่ตรงไหนครับ...


มีวิธีหาจุดโฟกัส infinity ของเลนส์ทุกตัวได้ง่ายๆให้ทำอย่างนี้ครับ
1. หาในเวลากลางวันเอาไว้ก่อน โดยการเอาเลนส์ส่องไปที่ปุยเมฆให้มันโฟกัสแล้วเอาลงมาดูว่ามันหมุนอยู่ตรงไหนแล้วจำเอาไว้ครับ
2. หาในขณะที่จะถ่าย โดยการเอาไฟฉาย ฉายไปที่ยอดไม้ที่อยู่ห่างไกลออกไป แล้วเอาเลนส์ไปโฟกัสตรงนั้น จากนั้นปิดระบบออโต้โฟกัส เอาเลนส์ลงมาส่องดูว่ามันโฟกัสอยู่ตรงไหนแล้วจำเอาไว้ครับ (วิธีนี้ต้องระวัง หากอยู่รวมกันเป็นหมู่คณะใหญ่ เวลาจะฉายไฟควรคำนึงถึงหมู่คณะว่าจะรบกวนการถ่ายของคนอื่นๆหรือไม่)

...ขอบคุณมากครับ...
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

หน้า: 1   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 

กระโดดไป:  

T--shirt Motor CRC