มีนาคม 29, 2024, 12:12:33 AM
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
*

ฝึกการถ่ายภาพอย่างมืออาชีพ (shutter Speed)
หน้า: 1   ลงล่าง
  พิมพ์  

  ฝึกการถ่ายภาพอย่างมืออาชีพ (shutter Speed)
ผู้เขียน ข้อความ
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
conbangpu
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: กันยายน 06, 2011, 03:13:26 PM »

สวัสดีครับ ก็กลับมาพบกันอีกแล้วนะครับ เป็นไงกันบ้างครับกับการถ่ายรูป หรือใช้กล้องในสัปดาห์ที่ผ่านมาครับ ถ้ามีปัญหาใดสงสัยก็ส่งกระทู้มาถามได้เลยนะครับ ผมจะตอบให้เลยครับ สำหรับสัปดาห์นี้นะครับอาจจะยากขึ้นสักหน่อยนะครับ เกี่ยวกับการถ่ายเพราะผมจะบอกเคล็ดลับการสร้างภาพแบบมืออาชีพให้มากขึ้นกว่าเดิมแล้วครับ กล้องที่ต้องใช้จะต้องเป็นกล้องที่สามารถปรับแมนนวลหรือ โหมด M ได้นั้นเองครับ แต่เราคงยังไม่พูดถึงในระดับนั้นครับ เพราะถือว่าต้องเข้าใจแล้วชำนาญครับถึงจะเข้าใจแล้วใช้ได้เต็มรูปแบบครับ งั้นเรามารู้จักโหมดในการฝึกเบื้องต้นก่อนจะไปถึงโหมด ครับ จะได้เข้าใจกันมากขึ้นและง่ายขึ้นครับ

สำหรับอาทิตย์นี้มารู้จักโหมด S หรือ TV กันดีก่อนนะครับ โหมด S หรือ TV ไว้ทำอะไร บ้างท่านที่มีกล้องแต่ยังไม่เคยที่จะคิดปรับไปโหมดอื่นเลยครับ ยกเว้น Auto ถ้าได้อ่านบทความนี้น่าจะปรับเป็นและเข้าใจเทคนิคการสร้างภาพมากขึ้นครับ อย่างแรกรู้ก่อนครับว่าโหมด S คือ ระบบถ่ายภาพแบบช่องรับแสงอัตโนมัติ (Shutter Priority) โหมดนี้เครื่องจะวัดแสงให้ครับ ถ้าอยู่ในโหมด M เราจะต้องวัดแสง กับควบคุมความเร็วชัตเตอร์ เองครับ ดังนั้นโหมด S คือ โหมดที่เราสามารถปรับความเร็วชัตเตอร์ได้ตามต้องการ โดยที่กล้องจะคำนวณเรื่องการปรับค่ารูรับแสงให้อัตโนมัติ ถ้าจะเปรียบโหมดนี้ก็เหมือนกับการกระพริบตาของคนเรานั่นเองครับ ลองจินตนาการตามนะครับ สมมุติว่าเรากำลังมองรถวิ่งผ่านจากเสาไฟฟ้าต้นที่ 1 ไปถึงต้นที่ 4 ถ้าเรากระพริบตาเร็วๆ เราจะเห็นเหมือนรถไปหยุดที่เสาไฟฟ้าที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 แต่ถ้าเรากระพริบตาช้าเราอาจจะเห็นภาพรถไปหยุดที่เสาต้นที่ 4 หรือเลยจากกรอบสายตาที่เราต้องการไปแล้ว โหมดนี้จะคิดคำนวณความเร็วในการเปิด-ปิดชัตเตอร์มีหน่วยเป็น 1/วินาที ครับ ส่วนความสามารถของกล้องแต่ละรุ่น หรือแต่ละยี่ห้อก็จะปรับได้ต่างกันครับ เอาล่ะถ้าตอนนี้ในมือมีกล้องอยู่ก็ลองปรับตามไปด้วยได้นะครับ ผมจะยกตัวอย่างการถ่ายรูปภาพหนึ่งภาพมานะครับ ลองคิดตามต่อนะครับ ว่าต้องการถ่ายรถที่กำลังวิ่งอยู่ให้เหมือนหยุดนิ่งอยู่กับที่ เราควรเลือกความเร็วชัตเตอร์ที่ค่อนข้างสูงครับ ที่นี้คงนึกในไจว่าต้องใช้ความเร็วสูงเท่าไรจึงจะพอล่ะ……. ผมตอบอย่างนี้ล่ะกันครับให้ลองถ่ายดูที่ความเร็วชัตเตอร์ต่างๆ กันออกไปแล้วเอาภาพที่ได้มาดูครับว่าเราอยากได้ภาพประมาณไหน เช่น ผมต้องการถ่ายภาพรถแข่งในสนามแข่งซึ่งขับด้วยความเร็วไม่ต่ำกว่า กิโลเมตรต่อชั่วโมง และผมอยากได้ภาพที่รถกำลังผ่านเข้าเส้นชัยพอดีและเป็นภาพหยุดนิ่งพอดี ผมอาจจะตั้งความเร็วที่ 1/2000 วินาที แต่ถ้าผมต้องการถ่ายภาพเด็กที่กำลังวิ่งอยู่ ผมอาจจะตั้งที่ 1/250 วินาทีก็พอ ที่นี้ถ้าใครลองถ่ายภาพตามที่ผมแนะนำแล้วลองเอารูปมาดู บางคนอาจจะสังเกตเห็นว่าภาพที่ได้จากการใช้ความเร็วชัตเตอร์สูงๆ จะดูมืดกว่าภาพความที่ได้จากความเร็วชัดเตอร์ต่ำ ในขณะที่ใช้สถานที่เดียวกัน ผลตรงนี้มาจากเวลาที่ CCD สามารถรับแสงได้นั้นเองครับ ก็ความเร็ว 1/2000 วินาทีก็หมายถึงระยะเวลาที่ชัดเตอร์เปิดแล้วปิดกลับสู่สภาพเดิมใช้เวลาแต่ 1/2000 วินาทีเอง ถ้าแสงในสภาพแวดล้อมไม่มากพอจริงๆแล้ว ภาพที่ได้จะมืด แต่ถ้าเราใช้ความเร็วที่ 1/25 วินาทีหรือ 1 วินาทีเราก็จะได้แสงในปริมาณที่มาก ทำให้เราได้ภาพที่มีความสว่างมากเกินไปนั่นเองครับ เรื่องนี้เป็นผลของการใช้โหมด S แม้ว่ากล้องจะคำนวณเรื่องขนาดของรูรับแสงให้แล้วก็ตาม ดังนั้นการเลือกแต่ละครั้งควรลองดูผลของค่าวัดแสงของเครื่องก่อนครับว่าเป็นอย่างไร โปรดสังเกตนิดหนึ่งครับ จะมีแสดงอยู่บนจอ LCD ซื่งเราสามารถเลือกการแสดงผลได้ครับ โดยการเสดงจะมีลักษณะเป็นกราฟ ถ้ากราฟเบ้ไปทางซ้ายคือแสงน้อยไป ถ้าเบ้ไปทางขวาแสดงว่าแสงมากไปครับ หรือถ้าเป็น จะมีอยู่ในช่องมองผ่านเลนส์ครับ สัญลักษณ์คือ IIIIIIIII+ ครับ ถ้ามาทาง – คือ แสงน้อย มาทาง + คือ แสงเยอะครับ ดังนั้นถ้าสรุปให้จำได้ง่ายๆ ก็คือโหมด S ให้เราทำหน้าที่ควบคุมความเร็วชัตเตอร์เอง ส่วนรูรับแสงตัวกล้องเป็นตัวคำนวณให้ครับ

ที่นี้เรามาลองดูว่าภาพแบบไหนที่เราจะใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำๆ บ้าง ภาพที่เรามักจะได้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำๆ อย่าง 1/60,1/30,1/15,1/8,1/4,1/2 วินาทีหรือจะใช้ไปที่ 1 ”, 2 &rdquol,4 ”,8 ”,15 ”,30 ”,60 ” วินาที(ถ้ามีเครื่องหมาย “ นี้หมายความว่าจะมีหน่วยเป็นวินามีแทนครับ)หรือก็บ้างตัวอาจจะมีถึง B (Bulb คือการเปิดชัดเตอร์ค้างไว้จนกว่าเราจะปล่อยมือออกจากปุ้มกด) เลยครับ การถ่ายภาพที่ใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำเช่นการถ่ายภาพพลุ ถ้าเราใช้ความเร็วชัดเตอร์ที่ต่ำเราจะเห็นพลุ วิ่งเป็นเส้นจนถึงเวลาที่มันแตกได้เลยครับ หรือถ่ายภาพรถวิ่งในเวลากลางคืนก็จะได้ภาพเป็นเส้นไฟแทน นอกจากนี้ยังมีข้อดีอีกอย่าง คือ ช่วยการถ่ายภาพในที่ที่มีแสงน้อยครับ กล้องจะรับแสงเข้าได้มากครับ แต่ก็จะจับภาพได้แต่ถ้าต่ำมากๆไม่สามารถจับภาพวัตถุเคลื่อนไหวได้เพราะภาพจะเบลอครับ ดังนั้นความเร็วชัตเตอร์ต่ำจะช่วยถ่ายภาพ ที่มีแสงน้อยวัตถุอยู่กับที่ หรือถ้าต้องการ่ายน้ำตกให้เห็นเป็นสายๆ ก็ต้องใช้ชัตเตอร์ต่ำมากๆครับ การใช้ค่าความเร็วชัตเตอร์ที่ต่ำๆ ควรใช้ขาตั้งกล้องประกอบด้วยนะครับ

ข้อควรระวัง ไม่ควรใช้ค่าความเร็วชัดเตอร์ที่เร็วมากๆ จนเกินไปนะครับเนื่องจากจะทำให้ม่านชัตเตอร์มีอายุการใช้งานในน้อยลง หรือในทางตรงกันข้ามก็ไม่ควรเปิดค่าชัดเตอร์นานมากเกินไป เนื่องจากการเปิดหน้าชัดเตอร์ค้างไว้ในระบบกล้อง digital แล้วจะยังมีไฟไปเลี้ยงที่ CCD ตลอดเวลาครับ ถ้าเปิดนาน CCD ก็จะร้อนครับทำให้อายุการใช้งานสั่นลง หรือถ้านานมากอาจทำให้ CCD ไหม้ไปเลยก็ได้ครับ(แต่ผมยังไม่เคยลองหรือใครมีประสบการณ์ลองมาแล้วมาบอกผมนะว่านานแค่ไหนถึงจะทำให้ CCD ไหม้……)



Share

แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกประจำ
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 166


บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป


ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: กันยายน 07, 2011, 09:27:45 AM »

ขออนุญาตเจ้าของกระทู้นะครับ  เพราะเห็นการกล่าวถึงบางประการ ไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงครับ

สำหรับอาทิตย์นี้มารู้จักโหมด S หรือ TV กันดีก่อนนะครับ โหมด S หรือ TV ไว้ทำอะไร บ้างท่านที่มีกล้องแต่ยังไม่เคยที่จะคิดปรับไปโหมดอื่นเลยครับ ยกเว้น Auto ถ้าได้อ่านบทความนี้น่าจะปรับเป็นและเข้าใจเทคนิคการสร้างภาพมากขึ้นครับ อย่างแรกรู้ก่อนครับว่าโหมด S คือ ระบบถ่ายภาพแบบช่องรับแสงอัตโนมัติ (Shutter Priority) โหมดนี้เครื่องจะวัดแสงให้ครับ ถ้าอยู่ในโหมด M เราจะต้องวัดแสง กับควบคุมความเร็วชัตเตอร์ เองครับ ดังนั้นโหมด S คือ โหมดที่เราสามารถปรับความเร็วชัตเตอร์ได้ตามต้องการ โดยที่กล้องจะคำนวณเรื่องการปรับค่ารูรับแสงให้อัตโนมัติ ถ้าจะเปรียบโหมดนี้ก็เหมือนกับการกระพริบตาของคนเรานั่นเองครับ ลองจินตนาการตามนะครับ สมมุติว่าเรากำลังมองรถวิ่งผ่านจากเสาไฟฟ้าต้นที่ 1 ไปถึงต้นที่ 4 ถ้าเรากระพริบตาเร็วๆ เราจะเห็นเหมือนรถไปหยุดที่เสาไฟฟ้าที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 แต่ถ้าเรากระพริบตาช้าเราอาจจะเห็นภาพรถไปหยุดที่เสาต้นที่ 4 หรือเลยจากกรอบสายตาที่เราต้องการไปแล้ว โหมดนี้จะคิดคำนวณความเร็วในการเปิด-ปิดชัตเตอร์มีหน่วยเป็น 1/วินาที ครับ ส่วนความสามารถของกล้องแต่ละรุ่น หรือแต่ละยี่ห้อก็จะปรับได้ต่างกันครับ เอาล่ะถ้าตอนนี้ในมือมีกล้องอยู่ก็ลองปรับตามไปด้วยได้นะครับ ผมจะยกตัวอย่างการถ่ายรูปภาพหนึ่งภาพมานะครับ ลองคิดตามต่อนะครับ ว่าต้องการถ่ายรถที่กำลังวิ่งอยู่ให้เหมือนหยุดนิ่งอยู่กับที่ เราควรเลือกความเร็วชัตเตอร์ที่ค่อนข้างสูงครับ ที่นี้คงนึกในไจว่าต้องใช้ความเร็วสูงเท่าไรจึงจะพอล่ะ……. ผมตอบอย่างนี้ล่ะกันครับให้ลองถ่ายดูที่ความเร็วชัตเตอร์ต่างๆ กันออกไปแล้วเอาภาพที่ได้มาดูครับว่าเราอยากได้ภาพประมาณไหน เช่น ผมต้องการถ่ายภาพรถแข่งในสนามแข่งซึ่งขับด้วยความเร็วไม่ต่ำกว่า กิโลเมตรต่อชั่วโมง และผมอยากได้ภาพที่รถกำลังผ่านเข้าเส้นชัยพอดีและเป็นภาพหยุดนิ่งพอดี ผมอาจจะตั้งความเร็วที่ 1/2000 วินาที แต่ถ้าผมต้องการถ่ายภาพเด็กที่กำลังวิ่งอยู่ ผมอาจจะตั้งที่ 1/250 วินาทีก็พอ ที่นี้ถ้าใครลองถ่ายภาพตามที่ผมแนะนำแล้วลองเอารูปมาดู บางคนอาจจะสังเกตเห็นว่าภาพที่ได้จากการใช้ความเร็วชัตเตอร์สูงๆ จะดูมืดกว่าภาพความที่ได้จากความเร็วชัดเตอร์ต่ำ ในขณะที่ใช้สถานที่เดียวกัน ผลตรงนี้มาจากเวลาที่ CCD สามารถรับแสงได้นั้นเองครับ ก็ความเร็ว 1/2000 วินาทีก็หมายถึงระยะเวลาที่ชัดเตอร์เปิดแล้วปิดกลับสู่สภาพเดิมใช้เวลาแต่ 1/2000 วินาทีเอง ถ้าแสงในสภาพแวดล้อมไม่มากพอจริงๆแล้ว ภาพที่ได้จะมืด แต่ถ้าเราใช้ความเร็วที่ 1/25 วินาทีหรือ 1 วินาทีเราก็จะได้แสงในปริมาณที่มาก ทำให้เราได้ภาพที่มีความสว่างมากเกินไปนั่นเองครับ เรื่องนี้เป็นผลของการใช้โหมด S แม้ว่ากล้องจะคำนวณเรื่องขนาดของรูรับแสงให้แล้วก็ตาม ดังนั้นการเลือกแต่ละครั้งควรลองดูผลของค่าวัดแสงของเครื่องก่อนครับว่าเป็นอย่างไร โปรดสังเกตนิดหนึ่งครับ จะมีแสดงอยู่บนจอ LCD ซื่งเราสามารถเลือกการแสดงผลได้ครับ โดยการเสดงจะมีลักษณะเป็นกราฟ ถ้ากราฟเบ้ไปทางซ้ายคือแสงน้อยไป ถ้าเบ้ไปทางขวาแสดงว่าแสงมากไปครับ หรือถ้าเป็น จะมีอยู่ในช่องมองผ่านเลนส์ครับ สัญลักษณ์คือ IIIIIIIII+ ครับ ถ้ามาทาง – คือ แสงน้อย มาทาง + คือ แสงเยอะครับ ดังนั้นถ้าสรุปให้จำได้ง่ายๆ ก็คือโหมด S ให้เราทำหน้าที่ควบคุมความเร็วชัตเตอร์เอง ส่วนรูรับแสงตัวกล้องเป็นตัวคำนวณให้ครับ

การเลือกใช้โหมด S หรือ TV  คือการที่กล้องเราเลือกความเร็วชัตเตอร์เอง แล้วกล้องจะทำการเลือกหน้ากล้องให้แสงเข้ากล้องของเราพอดีโดยอัตโนมัติครับ  ฉะนั้น  เราจะเลือกความเร็วเท่าไร  ภาพที่ถ่ายได้จะยังคงมีความสว่างของภาพเท่ากันหมด  ไม่ใช่ยิ่งใช้ความเร็วสูงขึ้นภาพยิ่งมืดลงแต่อย่างใด  ยกเว้น  อยู่นอกเหนือขอบเขตของเลนส์นั้นๆจะสามารถทำได้  ซึ่งในช่องมองภาพก็จะมีสัญญลักษณ์เตือนอยู่แล้วครับ  ส่วนการแสดงผลบนกราฟ  หากเราไม่ได้ตั้งชดเชย  กราฟก็จะแสดงไม่มี เอีงซ้ายหรือเอียงขวาครับ จะอยู่กลางเสมอ  ไอ้ที่แสดงผล + - ขึ้น-ลง ได้นั้น  หมายถึงการใช้วัดแสงในโหมด M ครับ  อย่าเอามาพูดปะปนกันครับ  เดี๋ยวงงตายกันพอดี
ส่วนการใช้ชัตเตอร์นานๆแล้ว เซ็นเซ่อร์รับภาพอยุสั้นลงหรือไหม้  ก็ขึ้นอยู่กลับชนิดของเซ็นเซ่อร์ครับ  หากเป็น CCD  เซ็นเซ่อร์ชนิดนี้จะมีไฟฟ้าเข้าไปเลี้ยงค่อนข้างเยอะขณะกล้องเปิดชัตเตอร์รับแสง  จึงทำให้ตัวเซ็นเซ่อร์ร้อนมาก จึงเปิดชัตเตอร์นานมากไม่ได้  นั่นจึงเป็นสาเหตุให้กล้องชนิดนี้ไม่สามารถใช้ถ่าย VDO หรือใช้ถ่ายได้เพียงแค่ชอตสั้นๆเท่านั้น  แต่โดยส่วนใหญ่  กล้องที่ใช้เซ็นเซ่อร์ชนิดนี้ก็จะมีระบบป้องกัน  หากกดชัตเตอร์นานเกิน  กล้องจะทำการตัดออกโดยอัตโนมัติครับ  แต่หากเป็นกล้องที่ใช้เซ็นเซ่อร์รับภาพเป็นชนิด C-MOS เซ็นเซ่อร์ชนิดนี้จะใช้ไฟฟ้าเลี้ยงค่อนข้างต่ำ  จึงทำให้สามารถใช้ชัตเตอร์นานๆได้  เท่าที่เคยทดลองใช้ถ่ายดาวเวลาค่ำคืน  สามารถใช้ชัตเตอร์นานราว 2-3 ชั่วโมง  โดยที่เซ็นเซ่อร์ไม่เป็นอะไรครับ แต่การใช้ชัตเตอร์นานๆก็ควรต้องตรวจสอบแบตเตอรี่ก่อนถ่ายนะครับ  เพราะไม่งั้นอาจไม่ได้ชัตเตอร์ที่นานตามที่เราต้องการ เพราะกำลังไฟฟ้าหมดซะก่อนก็ได้  และการใช้ชัตเตอร์นานๆก็ควรปิดระบบกำจัดน๊อส์ยออกก่อนนะครับ  ไม่งั้น  มันจะใช้เวลาอีกเท่าตัวในการกำจัดน๊อส์ยครับ  และกล้องชนิดนี้ ส่วนใหญ่ สามารถใช้ถ่าย VDO ได้โดยไม่จำกัดเวลาครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 07, 2011, 09:43:20 AM โดย FRW » แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

ผู้มีบุญก็เข้ามา  หมดวาสนาก็จากไป
e21rts
ผู้ดูแลเว็บ
แฟนพันธ์แท้ SPC
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,147


e21rts@outlook.co.th


ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: กันยายน 08, 2011, 10:01:18 AM »

ขอบคุณทั้งสองท่านครับ...ที่กรุณาสละเวลาพิมพ์และเรียบเรียงข้อความยาวๆให้ได้อ่านหาความรู้กัน...ขอบคุณครับ..
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

++คติเตือนตน++คำว่า"คนดี"..คือคำที่มีไว้เรียกคนโง่ให้ฟังสวยหรูดูดีมีเกียรติ...เพื่อหลอกให้มันหลงภาคภูมิใจ...และตั้งหน้าตั้งตาทำเรื่องโง่ๆของมันต่อไป..

หน้า: 1   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 

กระโดดไป:  

T--shirt Motor CRC