ต่อไป »

[..สนามกีฬาภูติอนันต์นั้นมีสองที่..ที่แรกนั้นอยู่ตรงเลยสี่แยกบางนามาทางสำโรงทางด้านซ้ายมือราวสามร้อยเมตร..ด้านในก็จะมีคร์อดเทนนิส+สระว่ายน้ำ+สนามยิงปืนซึ่งสมัยๆหนุ่มผมไปใช้บริการที่นี่ครับ..ส่วนสนามที่สองนั้นอยู่ที่เลยแยกสรรพาวุธมาทางปู่เจ้าสมิงพรายราวสามร้อยเมตรเช่นกัน..แต่อยู่ทางด้านขวามือ..ก็มีสระว่ายน้ำ+สนามบอลล์+สนามฝึกซ้อมมวย+และลู่วิ่งจ๊อกกิ้ง....และอย่างหลังนี่แหละที่ผมมาใช้บริการราวๆอาทิตย์ละครั้งด้วยว่าเพราะอยู่ใกล้บ้าน..ขี่แมงกะไซมากิโลเดียวก็ถึงแล้ว..เนื้อที่เค้ากว้างขวางใหญ่โต..เป็นของกรมสรรพาวุธทหารเรือครับ..เมื่อสองวันที่แล้วผมเข้าไปวิ่ง..ที่ข้างลู่วิ่งเจอเจ้ากระจาบทองนี่เค้ากำลังตอกเสาเข็มเตรียมสร้างบ้าน..และเห็นโคนต้นไม้เตี้ยๆที่เค้าเลือกทำรังนั้นมีการตัดหญ้าซึ่งขึ้นรก..ซึ่งคงเป็นทหารเรือมาเคลียร์ให้นั่นแหละ....และที่โคนต้นมีการจุดไฟเผา..เลยเข้าไปดูใกล้ๆจึงได้เห็นสาเหตุว่าเผาอะไร..รังแตนครับ.ฮ่าๆๆ..ทหารคงมาตัดหญ้าแล้วโดนแตนที่ทำรังอยู่ที่โคนต้นนั้นต่อยเอา..ก็เลยมาเผาล้างแค้น..รังหนะโดนเผาไปแล้ว..แต่ตัวยังเกาะอยู่แถวนั้นราวยี่สามสิบตัว..ขืนเข้าไปใกล้อาจโดนไล่ต่อยเหมือนกัน..เลยไม่กล้าเข้าไปใกล้นัก....มาวันนี้ช่วงบ่ายว่างงานครับ..ก็เลยจัดอุปกรณ์ขึ้นรถขับมาที่สนามลู่วิ่ง..จอดรถที่ลานจอดแล้วเดินแค่ 40 เมตรก็ถึงตำแหน่งรังเจ้ากระจาบทองแล้ว..ก่อนมายังหนักใจว่าจะถ่ายลำบากเพราะทั้งกิ่งและใบของต้นรกไปหมด..แต่เมื่อมาถึงปัญหานี้ก็ลดลง..เพราะทางทหารเรือมีการตัดกิ่งที่อยู่ใกล้ลู่วิ่งออก..คงเพื่อกันไม่ให้แตนมาสร้างรังใหม่ที่กิ่งทางด้านนี้แล้วจะมีปัญหากับคนที่มาวิ่งออกกำลังกายครับ..ตัดไฟไว้แต่ต้นลม....อย่างนี้ค่อยโล่งขึ้นหน่อย..ผมก็กางไบด์ตั้งกล้องบนลู่วิ่งนั่นแหละเพราะเที่ยงๆบ่ายๆนี่ยังไม่มีคนวิ่งหรอก..คือส่วนใหญ่มากันหลังสี่โมงเย็น..สาเหตุที่ต้องกางไบด์เพราะเจ้านี่เซนซิทีฟครับ..ถ้าเห็นคนอยู่ใกล้เค้าจะเกาะหลบๆหลังกิ่งรกๆ..ไม่ยอมโชว์ตัวในที่โล่งๆ..ผมได้ถ่ายใบแรกนี่ตอน 13.29 น.]

..สนามกีฬาภูติอนันต์นั้นมีสองที่..ที่แรกนั้นอยู่ตรงเลยสี่แยกบางนามาทางสำโรงทางด้านซ้ายมือราวสามร้อยเมตร..ด้านในก็จะมีคร์อดเทนนิส+สระว่ายน้ำ+สนามยิงปืนซึ่งสมัยๆหนุ่มผมไปใช้บริการที่นี่ครับ..
ส่วนสนามที่สองนั้นอยู่ที่เลยแยกสรรพาวุธมาทางปู่เจ้าสมิงพรายราวสามร้อยเมตรเช่นกัน..แต่อยู่ทางด้านขวามือ..ก็มีสระว่ายน้ำ+สนามบอลล์+สนามฝึกซ้อมมวย+และลู่วิ่งจ๊อกกิ้ง..
..และอย่างหลังนี่แหละที่ผมมาใช้บริการราวๆอาทิตย์ละครั้งด้วยว่าเพราะอยู่ใกล้บ้าน..ขี่แมงกะไซมากิโลเดียวก็ถึงแล้ว..เนื้อที่เค้ากว้างขวางใหญ่โต..เป็นของกรมสรรพาวุธทหารเรือครับ..
เมื่อสองวันที่แล้วผมเข้าไปวิ่ง..ที่ข้างลู่วิ่งเจอเจ้ากระจาบทองนี่เค้ากำลังตอกเสาเข็มเตรียมสร้างบ้าน..และเห็นโคนต้นไม้เตี้ยๆที่เค้าเลือกทำรังนั้นมีการตัดหญ้าซึ่งขึ้นรก..ซึ่งคงเป็นทหารเรือมาเคลียร์ให้นั่นแหละ..
..และที่โคนต้นมีการจุดไฟเผา..เลยเข้าไปดูใกล้ๆจึงได้เห็นสาเหตุว่าเผาอะไร..รังแตนครับ.ฮ่าๆๆ..ทหารคงมาตัดหญ้าแล้วโดนแตนที่ทำรังอยู่ที่โคนต้นนั้นต่อยเอา..ก็เลยมาเผาล้างแค้น..
รังหนะโดนเผาไปแล้ว..แต่ตัวยังเกาะอยู่แถวนั้นราวยี่สามสิบตัว..ขืนเข้าไปใกล้อาจโดนไล่ต่อยเหมือนกัน..เลยไม่กล้าเข้าไปใกล้นัก..
..มาวันนี้ช่วงบ่ายว่างงานครับ..ก็เลยจัดอุปกรณ์ขึ้นรถขับมาที่สนามลู่วิ่ง..จอดรถที่ลานจอดแล้วเดินแค่ 40 เมตรก็ถึงตำแหน่งรังเจ้ากระจาบทองแล้ว..
ก่อนมายังหนักใจว่าจะถ่ายลำบากเพราะทั้งกิ่งและใบของต้นรกไปหมด..แต่เมื่อมาถึงปัญหานี้ก็ลดลง..เพราะทางทหารเรือมีการตัดกิ่งที่อยู่ใกล้ลู่วิ่งออก..
คงเพื่อกันไม่ให้แตนมาสร้างรังใหม่ที่กิ่งทางด้านนี้แล้วจะมีปัญหากับคนที่มาวิ่งออกกำลังกายครับ..ตัดไฟไว้แต่ต้นลม..
..อย่างนี้ค่อยโล่งขึ้นหน่อย..ผมก็กางไบด์ตั้งกล้องบนลู่วิ่งนั่นแหละเพราะเที่ยงๆบ่ายๆนี่ยังไม่มีคนวิ่งหรอก..คือส่วนใหญ่มากันหลังสี่โมงเย็น..
สาเหตุที่ต้องกางไบด์เพราะเจ้านี่เซนซิทีฟครับ..ถ้าเห็นคนอยู่ใกล้เค้าจะเกาะหลบๆหลังกิ่งรกๆ..ไม่ยอมโชว์ตัวในที่โล่งๆ..ผมได้ถ่ายใบแรกนี่ตอน 13.29 น.

[..กระจาบทอง..Asian Golden Weaver. ขนาดราวๆ 14.5-15 เซนติเมตร. ตัวนี้เพศผู้ครับ..และเป็นสีขนในช่วงฤดูผสมพันธ์..คือช่วงฤดูนี้เพศผู้จะผลัดขนเป็นสีเหลืองสวยงาม..แต่เพศเมียจะไม่ผลัดสีขน..ยังออกสีน้ำตาลๆเหมือนเดิม..ซึ่งจะดูคล้ายนกกระจาบธรรมดา..เพียงแต่ปากสั้นหนากว่าเท่านั้น..จุดหากิน+ถิ่นอาศัยก็ตามป่าหญ้า+นาข้าวเหมือนๆกับกระจาบธรรมดานั่นแหละ..แต่มีจำนวนน้อยเลยไม่ค่อยสร้างปัญหาเหมือนกระจาบธรรมดา..เจ้านั่นสร้างปัญหาให้กับชาวนาทั่วประเทศ..เพราะบินมากินข้าวทีนึงเป็นฝูงใหญ่นับพันๆตัว..จนชาวนาที่ลาดกระบังต้องจุดปะทัดนัดนึงทุกๆครึ่งชัวโมงเพื่อใช้เสียงไล่นกกระจาบ..ไม่งั้นข้าวเสียหายเยอะ..]

..กระจาบทอง..Asian  Golden  Weaver.  ขนาดราวๆ 14.5-15 เซนติเมตร. ตัวนี้เพศผู้ครับ..และเป็นสีขนในช่วงฤดูผสมพันธ์..
คือช่วงฤดูนี้เพศผู้จะผลัดขนเป็นสีเหลืองสวยงาม..แต่เพศเมียจะไม่ผลัดสีขน..ยังออกสีน้ำตาลๆเหมือนเดิม..ซึ่งจะดูคล้ายนกกระจาบธรรมดา..เพียงแต่ปากสั้นหนากว่าเท่านั้น..
จุดหากิน+ถิ่นอาศัยก็ตามป่าหญ้า+นาข้าวเหมือนๆกับกระจาบธรรมดานั่นแหละ..แต่มีจำนวนน้อยเลยไม่ค่อยสร้างปัญหาเหมือนกระจาบธรรมดา..
เจ้านั่นสร้างปัญหาให้กับชาวนาทั่วประเทศ..เพราะบินมากินข้าวทีนึงเป็นฝูงใหญ่นับพันๆตัว..จนชาวนาที่ลาดกระบังต้องจุดปะทัดนัดนึงทุกๆครึ่งชัวโมงเพื่อใช้เสียงไล่นกกระจาบ..ไม่งั้นข้าวเสียหายเยอะ..

[..พระเอกเราหลังจากที่ไปฉีก+คาบใบหญ้ายาวๆมาสานรัง..ตอนนี้ขอเกาะพักเหนื่อย+ไซ้ขนอยู่ข้างบ้านหน่อย..กระจาบทองนั้นช่วยกันสร้างรังทั้งตัวผู้และตัวเมียครับ..และรังส่วนมากจะสร้างอยู่เตี้ยๆตามต้นอ้อ+กอแขม+ต้นธูปฤษีริมแอ่งน้ำ..อย่างที่นี่ก็สร้างบนต้นไม้เตี้ยริมแอ่งน้ำเช่นกัน..ไม่เหมือนกระจาบธรรมดาที่สร้างรังบนยอดไม้สูง..และรังเค้านั้นเป็นงานวิศวกรรมที่สวยงามมาก..ไม่รู้ไปเรียนจบจากสถาบันไหนถึงสร้างได้งดงามขนาดนั้น....ขอบคุณที่เยี่ยมชม+ชี้แนะ...และขอบคุณพื้นที่แห่งนี้ครับ..]

..พระเอกเราหลังจากที่ไปฉีก+คาบใบหญ้ายาวๆมาสานรัง..ตอนนี้ขอเกาะพักเหนื่อย+ไซ้ขนอยู่ข้างบ้านหน่อย..
กระจาบทองนั้นช่วยกันสร้างรังทั้งตัวผู้และตัวเมียครับ..และรังส่วนมากจะสร้างอยู่เตี้ยๆตามต้นอ้อ+กอแขม+ต้นธูปฤษีริมแอ่งน้ำ..อย่างที่นี่ก็สร้างบนต้นไม้เตี้ยริมแอ่งน้ำเช่นกัน..
ไม่เหมือนกระจาบธรรมดาที่สร้างรังบนยอดไม้สูง..และรังเค้านั้นเป็นงานวิศวกรรมที่สวยงามมาก..ไม่รู้ไปเรียนจบจากสถาบันไหนถึงสร้างได้งดงามขนาดนั้น..
..ขอบคุณที่เยี่ยมชม+ชี้แนะ...และขอบคุณพื้นที่แห่งนี้ครับ..