ต่อไป »

[..เมื่อออกจากบ้านรักไทยแล้วผมก็มาที่สะพานไม้ไผ่ซูตองเป้ครับ..คำนี้เป็นภาษาไทยใหญ่..แปลเป็นไทยเล็กว่า"ความสำเร็จ"..ระยะทางจากบ้านรักไทยมาถึงนี่ 32.4 กิโลเมตร..ใช้ระยะเวลา 48 นาที..ผมมาถึงตอน 13.59 น.ที่นี่เป็นสะพานไม้ไผ่ที่ยาวที่สุดในไทย(คือผมเห็นตงและคานข้างล่างนั่นทำด้วยเหล็กแป็บ..แล้วเอาไม้ไผ่สับเป็นขัดแตะวางด้านบน)..ความประสงค์ที่สร้างนั้นเพราะว่าวัดอยู่บนเนินที่หากจะเดินมาบิณฑบาตรที่หมู่บ้านมันต้องข้ามท้องนา..ซึ่งในช่วงหน้านานั้นมันไม่สะดวก..หรือไม่งั้นต้องเดินอ้อมไกลออกไปมาก..จึงสร้างสะพานนี้ขึ้นมา..และคนเมืองมาเห็นเข้าเลยชอบใจในบรรยากาศที่พระเดินข้ามสะพานนี้มาบิณฑบาตรในตอนเช้าที่หมอกลง..เลยกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตขึ้นมา..]

..เมื่อออกจากบ้านรักไทยแล้วผมก็มาที่สะพานไม้ไผ่ซูตองเป้ครับ..คำนี้เป็นภาษาไทยใหญ่..แปลเป็นไทยเล็กว่า"ความสำเร็จ"..
ระยะทางจากบ้านรักไทยมาถึงนี่ 32.4 กิโลเมตร..ใช้ระยะเวลา 48 นาที..ผมมาถึงตอน 13.59 น.
ที่นี่เป็นสะพานไม้ไผ่ที่ยาวที่สุดในไทย(คือผมเห็นตงและคานข้างล่างนั่นทำด้วยเหล็กแป็บ..แล้วเอาไม้ไผ่สับเป็นขัดแตะวางด้านบน)
..ความประสงค์ที่สร้างนั้นเพราะว่าวัดอยู่บนเนินที่หากจะเดินมาบิณฑบาตรที่หมู่บ้านมันต้องข้ามท้องนา..ซึ่งในช่วงหน้านานั้นมันไม่สะดวก..หรือไม่งั้นต้องเดินอ้อมไกลออกไปมาก..
จึงสร้างสะพานนี้ขึ้นมา..และคนเมืองมาเห็นเข้าเลยชอบใจในบรรยากาศที่พระเดินข้ามสะพานนี้มาบิณฑบาตรในตอนเช้าที่หมอกลง..เลยกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตขึ้นมา..

[..แต่นี่ผมมาเอาจะบ่ายสอง..หมอกมันหงอยหมดแล้ว..เลยไม่ค่อยประทับใจครับ..อิๆที่แย่คือเสาและสายไฟแรงสูง 1200 โวลท์ที่พาดผ่านกลางท้องนานั่นแหละ..ดูขัดตาพิลึก..]

..แต่นี่ผมมาเอาจะบ่ายสอง..หมอกมันหงอยหมดแล้ว..เลยไม่ค่อยประทับใจครับ..อิๆ
ที่แย่คือเสาและสายไฟแรงสูง 1200 โวลท์ที่พาดผ่านกลางท้องนานั่นแหละ..ดูขัดตาพิลึก..

[..จากหัวสะพานนี้ผมขับรถไปที่วัดซึ่งต้องวิ่งอ้อมออกไปที่ถนน 1095 แล้ววกเข้าซอยด้านซ้ายเข้าวัด..ระยะทางราว 4.3 กิโลเมตร..นี่คือเหตุผลที่ต้องสร้างสะพานนี้ครับ..เพราะถ้าเดินผ่านสะพานมันก็เหลือระยะทางเพียง 300 เมตร..เมื่อมาถึงลานจอดรถแล้ว..จะมีอุโมงค์ไม้ไผ่สานพาลงไปที่พระอุโบสถต์..ใบหลังนั่นผมเล่นทีเผลอเก็บแคนดิดภาพหลวงน้องมาใบนึง..อิๆ]

..จากหัวสะพานนี้ผมขับรถไปที่วัดซึ่งต้องวิ่งอ้อมออกไปที่ถนน 1095 แล้ววกเข้าซอยด้านซ้ายเข้าวัด..
ระยะทางราว 4.3 กิโลเมตร..นี่คือเหตุผลที่ต้องสร้างสะพานนี้ครับ..เพราะถ้าเดินผ่านสะพานมันก็เหลือระยะทางเพียง 300 เมตร..
เมื่อมาถึงลานจอดรถแล้ว..จะมีอุโมงค์ไม้ไผ่สานพาลงไปที่พระอุโบสถต์..ใบหลังนั่นผมเล่นทีเผลอเก็บแคนดิดภาพหลวงน้องมาใบนึง..อิๆ

[..มุมมองจากวัดผ่านท้องนาไปยังหัวสะพานฝั่งหมู่บ้าน..]

..มุมมองจากวัดผ่านท้องนาไปยังหัวสะพานฝั่งหมู่บ้าน..

[..นี่เป็นศาลาหลังใหญ่ที่เป็นศิลปะไทยใหญ่ที่กำลังก่อสร้างครับ..ก็คล้ายๆกับศิลปะพม่าอยู่นะ..]

..นี่เป็นศาลาหลังใหญ่ที่เป็นศิลปะไทยใหญ่ที่กำลังก่อสร้างครับ..ก็คล้ายๆกับศิลปะพม่าอยู่นะ..

[..ซ้ายมือใบแรกนั่นคือพระอุโบสถต์ในปัจจุบันนี้ครับ..ที่ผมเข้าใจว่าอย่างนั้นก็เพราะด้วยว่าพระประธานประดิษฐานอยู่ตรงนี้..ส่วนใบหลังนั่นคือปากทางที่ขึ้นมาจากสะพานที่มาจากหมู่บ้าน..]

..ซ้ายมือใบแรกนั่นคือพระอุโบสถต์ในปัจจุบันนี้ครับ..ที่ผมเข้าใจว่าอย่างนั้นก็เพราะด้วยว่าพระประธานประดิษฐานอยู่ตรงนี้..
ส่วนใบหลังนั่นคือปากทางที่ขึ้นมาจากสะพานที่มาจากหมู่บ้าน..

[..มุมมองของสะพานไม้ไผ่..จากด้านขวาของวัด..]

..มุมมองของสะพานไม้ไผ่..จากด้านขวาของวัด..

[..พระประธานในโบถต์ครับ..สังเกตุว่าพระไทยใหญ่นี่เค้ารวยมากๆ..ทั้งซุ้มและชฎาทอง..ทั้งเพชรพลอยประดับเต็มองค์..มีพทุธศาสนิกชนมาบูชาขอพรและขอเซลฟี่กันเป็นระยะๆไม่ขาดสายเลย(ใครอย่าปากบอนโทรไปฟ้องท่าน ผบ.นะวุ้ย..อิๆ)..เพราะคำว่า"ซูตองเป้"แปลว่า"อธิษฐานสำเร็จ"นั่นแหละ..ถ่ายใบท้ายนั่นตอน 14.52 น.แล้วผมก็เดินทางต่อ....ขอบคุณทุกท่านที่เยี่ยมชม+ชี้แนะ...และขอบคุณพื้นที่แห่งนี้ครับ..]

..พระประธานในโบถต์ครับ..สังเกตุว่าพระไทยใหญ่นี่เค้ารวยมากๆ..ทั้งซุ้มและชฎาทอง..ทั้งเพชรพลอยประดับเต็มองค์..
มีพทุธศาสนิกชนมาบูชาขอพรและขอเซลฟี่กันเป็นระยะๆไม่ขาดสายเลย(ใครอย่าปากบอนโทรไปฟ้องท่าน ผบ.นะวุ้ย..อิๆ)..เพราะคำว่า"ซูตองเป้"แปลว่า"อธิษฐานสำเร็จ"นั่นแหละ..
ถ่ายใบท้ายนั่นตอน 14.52 น.แล้วผมก็เดินทางต่อ..
..ขอบคุณทุกท่านที่เยี่ยมชม+ชี้แนะ...และขอบคุณพื้นที่แห่งนี้ครับ..

สะพานไม้ไผ่ เวลาเดินคงยวบๆหน่อยนะครับ

[..ใช่ครับ..และมันต้องเปลี่ยนไม้ฟากกันทุกสองปี..มันตากแดดตากฝนผุหมด..]

สะพานไม้ไผ่ เวลาเดินคงยวบๆหน่อยนะครับ

..ใช่ครับ..และมันต้องเปลี่ยนไม้ฟากกันทุกสองปี..มันตากแดดตากฝนผุหมด..