ต่อไป »

[..ต้องขออภัยที่ล่าช้า..เนื่องด้วยมีปัญหาทางเวบทำให้โพสต์รูปไม่ได้..นี่น้องเบ็นซ์เจ้าหน้าที่ไอทีของเวบเข้ามาแก้ไขให้แล้วครับ..ขอบคุณมากๆสืบเนื่องเรื่องนี้คือท่านประธานมีไซต์งานแถวพัฒนานิคมที่ท่านต้องไปตรวจและสั่งงาน..จึงชวนผมไปด้วย..เพราะเราจะขึ้นไปเซอร์เวย์ที่นี่เพราะไม่ได้ไปกันนานมากแล้ว..เราออกจากกรุงเทพช่วงบ่าย..ไปสั่งซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติมให้คณะช่างเสร็จแล้วก็มุ่งหน้าที่นี่โดยผมจิ้มจีพีเอสให้นำทาง..แต่ดันพิมพ์ว่าวัดเขาพญาเดินธง..มันพาเราเข้าป่าด้านล่างของเทือกเขาครับ..ซึ่งมันผิดที่..เพราะเป้าหมายที่ต้องการของเราชื่อ"สำนักสงฆ์เขาพญาเดินธง"..เลยต้องบุกป่าฝ่าดงกันจนมาบรรจบเส้นทางขึ้นเขา..นี่ถ้าไม่ใช่โฟวีลไดร์คงได้กินข้าวลิงแน่..อิๆๆ..เมื่อขึ้นไปถึงผมต้องร้องโอ้โฮ..เพราะผู้คนรถราจอดกางเต็นท์กันหนาแน่น..และทางสำนักสงฆ์สร้างรั้วกั้นและปิดประตูทางเข้าตอนหกโมงเย็น(ถ้าไม่งั้นทั้งรถราผู้คนคงวุ่นวายจนพระไม่ได้จำวัด)ตอนมาครั้งที่แล้วเมื่อหลายปีก่อนเรามากันสามคนโดยมีน้าชิตร่วมมาด้วยนั้น..เราขับรถเข้าไปในสำนักสงฆ์เลย..และก็มีเราแค่สามคนเท่านั้นที่ขึ้นไป..คงเนื่องจากตอนนั้นถนนยังเป็นลูกรังหลุมบ่ออยู่..รถเก๋งรถตู้ขึ้นไม่ได้..แต่บัดนี้ถนนราดยางขึ้นไปถึงแล้วครับ..และเมื่อขึ้นไปถึงตอนหกโมงเย็นนั้นผมลองเสริชปักหมุดสถานที่..มันขึ้นว่าเป็นจุดท่องเที่ยวชมวิวยอดเขาพญาเดินธง..แม่จ้าว..กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของลพบุรีไปแล้ว....เมื่อหาที่จอดรถได้นั้นฟ้าก็มืดไปแล้วครับ..ก็เตรียมอุปกรณ์มาถ่ายดินบนดาว..เอ๊ยยย..ดาวบนดินกัน..ผมได้กดใบแรกนี่ตอน 18.18 น.ถ่ายมาเยอะแต่ก็ซ้ำๆกันเพราะไม่ได้ย้ายมุมเลย..มีแค่เอาไฟฉายส่องเปิดโฟกราวด์และบางใบใช้โหมดเอชดีอาร์ถ่ายครับ..]

..ต้องขออภัยที่ล่าช้า..เนื่องด้วยมีปัญหาทางเวบทำให้โพสต์รูปไม่ได้..นี่น้องเบ็นซ์เจ้าหน้าที่ไอทีของเวบเข้ามาแก้ไขให้แล้วครับ..ขอบคุณมากๆ
สืบเนื่องเรื่องนี้คือท่านประธานมีไซต์งานแถวพัฒนานิคมที่ท่านต้องไปตรวจและสั่งงาน..จึงชวนผมไปด้วย..เพราะเราจะขึ้นไปเซอร์เวย์ที่นี่เพราะไม่ได้ไปกันนานมากแล้ว..
เราออกจากกรุงเทพช่วงบ่าย..ไปสั่งซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติมให้คณะช่างเสร็จแล้วก็มุ่งหน้าที่นี่โดยผมจิ้มจีพีเอสให้นำทาง..แต่ดันพิมพ์ว่าวัดเขาพญาเดินธง..
มันพาเราเข้าป่าด้านล่างของเทือกเขาครับ..ซึ่งมันผิดที่..เพราะเป้าหมายที่ต้องการของเราชื่อ"สำนักสงฆ์เขาพญาเดินธง"..เลยต้องบุกป่าฝ่าดงกันจนมาบรรจบเส้นทางขึ้นเขา..นี่ถ้าไม่ใช่โฟวีลไดร์คงได้กินข้าวลิงแน่..อิๆๆ
..เมื่อขึ้นไปถึงผมต้องร้องโอ้โฮ..เพราะผู้คนรถราจอดกางเต็นท์กันหนาแน่น..และทางสำนักสงฆ์สร้างรั้วกั้นและปิดประตูทางเข้าตอนหกโมงเย็น(ถ้าไม่งั้นทั้งรถราผู้คนคงวุ่นวายจนพระไม่ได้จำวัด)
ตอนมาครั้งที่แล้วเมื่อหลายปีก่อนเรามากันสามคนโดยมีน้าชิตร่วมมาด้วยนั้น..เราขับรถเข้าไปในสำนักสงฆ์เลย..และก็มีเราแค่สามคนเท่านั้นที่ขึ้นไป..
คงเนื่องจากตอนนั้นถนนยังเป็นลูกรังหลุมบ่ออยู่..รถเก๋งรถตู้ขึ้นไม่ได้..แต่บัดนี้ถนนราดยางขึ้นไปถึงแล้วครับ..และเมื่อขึ้นไปถึงตอนหกโมงเย็นนั้นผมลองเสริชปักหมุดสถานที่..มันขึ้นว่าเป็นจุดท่องเที่ยวชมวิวยอดเขาพญาเดินธง..แม่จ้าว..กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของลพบุรีไปแล้ว..
..เมื่อหาที่จอดรถได้นั้นฟ้าก็มืดไปแล้วครับ..ก็เตรียมอุปกรณ์มาถ่ายดินบนดาว..เอ๊ยยย..ดาวบนดินกัน..ผมได้กดใบแรกนี่ตอน 18.18 น.
ถ่ายมาเยอะแต่ก็ซ้ำๆกันเพราะไม่ได้ย้ายมุมเลย..มีแค่เอาไฟฉายส่องเปิดโฟกราวด์และบางใบใช้โหมดเอชดีอาร์ถ่ายครับ..

[..ถ่ายเสร็จก็นอนในรถนั่นแหละครับ..ไม่กางเต็นท์ทั้งที่อุปกรณ์ทุกอย่างมีเตรียมกันมาหมด..คงเพราะความขยันน้อยนั่นแหละ..ฮ่าๆๆคือผมกับท่านประธานนี่ความคิดเห็นมักจะเหมือนๆกัน..จะต้องวุ่นวายอะไรนักหนากับการนอนไม่กี่ชั่วโมงหละ..ตรงไหนเราก็จอดรถนอนได้ไม่เคยกลัวอะไร..แม้แต่ในป่าช้าวัดเราก็นอนได้ครับ....แต่นอนได้แค่ตีห้าก็ต้องตื่นเพราะแก็งแมงกาไซค์ขึ้นมาจอดข้างๆเกือบสิบคันเล่นเอาเสียงลั่นไปหมด..ตะโกนคุยกันแบบไม่เกรงใจใคร..อาจเพราะเค้าไม่รู้ว่ามีคนนอนอยู่ในรถ..ผมเลยเปิดประตูรถมายืนมองพวกเค้า..เค้าค่อยเบาเสียงลงแล้วทยอยๆเดินหายไป..ผมกับท่านประธานก็ล้างหน้าแล้วต้มกาแฟสิครับ....พูดถึงกาแฟ..ท่านประธานเตรียมชุดดริปชุดใหญ่มาจากบ้าน..เอามาสารพัดแต่ดันลืมเอากาแฟมา..ฮ่าๆๆ..เมื่อวานตอนยังอยู่ที่ถนนหมายเลข 21 เลยต้องวิ่งหากาแฟ..ก๊าก..แก่แล้วหลงๆลืมๆ..พอหกโมงเช้าประตูสำนักสงฆ์ก็เปิดครับ..ผู้คนก็เดินเข้าไปเที่ยวชมขอบผาด้านในกัน..]

..ถ่ายเสร็จก็นอนในรถนั่นแหละครับ..ไม่กางเต็นท์ทั้งที่อุปกรณ์ทุกอย่างมีเตรียมกันมาหมด..คงเพราะความขยันน้อยนั่นแหละ..ฮ่าๆๆ
คือผมกับท่านประธานนี่ความคิดเห็นมักจะเหมือนๆกัน..จะต้องวุ่นวายอะไรนักหนากับการนอนไม่กี่ชั่วโมงหละ..ตรงไหนเราก็จอดรถนอนได้ไม่เคยกลัวอะไร..แม้แต่ในป่าช้าวัดเราก็นอนได้ครับ..
..แต่นอนได้แค่ตีห้าก็ต้องตื่นเพราะแก็งแมงกาไซค์ขึ้นมาจอดข้างๆเกือบสิบคันเล่นเอาเสียงลั่นไปหมด..ตะโกนคุยกันแบบไม่เกรงใจใคร..อาจเพราะเค้าไม่รู้ว่ามีคนนอนอยู่ในรถ..
ผมเลยเปิดประตูรถมายืนมองพวกเค้า..เค้าค่อยเบาเสียงลงแล้วทยอยๆเดินหายไป..ผมกับท่านประธานก็ล้างหน้าแล้วต้มกาแฟสิครับ..
..พูดถึงกาแฟ..ท่านประธานเตรียมชุดดริปชุดใหญ่มาจากบ้าน..เอามาสารพัดแต่ดันลืมเอากาแฟมา..ฮ่าๆๆ..เมื่อวานตอนยังอยู่ที่ถนนหมายเลข 21 เลยต้องวิ่งหากาแฟ..ก๊าก..แก่แล้วหลงๆลืมๆ..
พอหกโมงเช้าประตูสำนักสงฆ์ก็เปิดครับ..ผู้คนก็เดินเข้าไปเที่ยวชมขอบผาด้านในกัน..

[..ก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากนัก...นอกจากซุ้มประตูแบบขอมที่เพิ่มมาในใบหลังนั่น..แต่ที่ท่านประธานมุ่งหวังว่าจะมาถ่ายทะเลหมอกที่นี่ก็ไม่ต้องหวังครับ..เพราะลมแรงและความชื้นในอากาศไม่มากพอ..]

..ก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากนัก...นอกจากซุ้มประตูแบบขอมที่เพิ่มมาในใบหลังนั่น..
แต่ที่ท่านประธานมุ่งหวังว่าจะมาถ่ายทะเลหมอกที่นี่ก็ไม่ต้องหวังครับ..เพราะลมแรงและความชื้นในอากาศไม่มากพอ..

[..จากนั้นลงจากเขาไปโรงงานเพื่อตรวจและสั่งงานครับ..เสร็จแล้วเข้าเขื่อนป่าสัก..เงียบเหงาวังเวงอย่างน่าใจหาย..ไม่มีนักท่องเที่ยวมากันเลย..ร้านรวงก็ปิดทิ้งร้างเหลือกันไม่กี่ร้านด้วยพิษของโควิดและเศรษฐกิจ..เอ..หรือว่าเพราะที่นี่มันเก่าหว่า...เพราะบนเขาพญาเดินธงนั่นคนเพียบเลย..ไม่เห็นโควิดจะทำอะไรได้นี่นา..]

..จากนั้นลงจากเขาไปโรงงานเพื่อตรวจและสั่งงานครับ..เสร็จแล้วเข้าเขื่อนป่าสัก..
เงียบเหงาวังเวงอย่างน่าใจหาย..ไม่มีนักท่องเที่ยวมากันเลย..ร้านรวงก็ปิดทิ้งร้างเหลือกันไม่กี่ร้านด้วยพิษของโควิดและเศรษฐกิจ..
เอ..หรือว่าเพราะที่นี่มันเก่าหว่า...เพราะบนเขาพญาเดินธงนั่นคนเพียบเลย..ไม่เห็นโควิดจะทำอะไรได้นี่นา..

[..จากนั้นมุ่งหน้าไปกราบพระครับ..ผมใช้จีพีเอสนำทางเช่นเคย..แต่เมื่อถึงประตูทางเข้าท่านประธานไม่กล้าเลี้ยวเข้าเพราะมันเปิดอยู่แค่ครึ่งซีกประตู..เลยวิ่งเข้าซอยไปดูที่ประตูหลัง..มันก็ปิดสนิทเลย..ต้องวิ่งย้อนออกมาที่ประตูใหญ่แล้ววิ่งเบียดแทรกประตูที่เปิดอยู่ครึ่งซีกนั้นเข้าไป..เมื่อถึงลานจอดหน้าองค์พระก็มีเพียงรถเราคันเดียวที่เข้ามา....ไร้ผู้คนนักท่องเที่ยวมาเยือนเลยครับ..ใบไม้ใบหญ้าขึ้นรกไปหมดไม่มีการตัดกวาดออกปล่อยให้เป็นธรรมชาติสุดๆ..เหอๆๆกราบพระแล้วเราก็เดินทางกลับบ้านโดยใช้เส้นทางทางด้านมวกเหล็ก..ด้วยหวังจะเซอร์เวย์ทุ่งทานตะวัน..แต่มีอยู่แค่กระจิ๊ดนึงตรงตรงข้ามสวนองุ่นปภัสรา....ขอบคุณทุกท่านที่เยี่ยมชม+ชี้แนะ...และขอบคุณพื้นที่แห่งนี้ครับ..]

..จากนั้นมุ่งหน้าไปกราบพระครับ..ผมใช้จีพีเอสนำทางเช่นเคย..
แต่เมื่อถึงประตูทางเข้าท่านประธานไม่กล้าเลี้ยวเข้าเพราะมันเปิดอยู่แค่ครึ่งซีกประตู..เลยวิ่งเข้าซอยไปดูที่ประตูหลัง..มันก็ปิดสนิทเลย..
ต้องวิ่งย้อนออกมาที่ประตูใหญ่แล้ววิ่งเบียดแทรกประตูที่เปิดอยู่ครึ่งซีกนั้นเข้าไป..เมื่อถึงลานจอดหน้าองค์พระก็มีเพียงรถเราคันเดียวที่เข้ามา..
..ไร้ผู้คนนักท่องเที่ยวมาเยือนเลยครับ..ใบไม้ใบหญ้าขึ้นรกไปหมดไม่มีการตัดกวาดออกปล่อยให้เป็นธรรมชาติสุดๆ..เหอๆๆ
กราบพระแล้วเราก็เดินทางกลับบ้านโดยใช้เส้นทางทางด้านมวกเหล็ก..ด้วยหวังจะเซอร์เวย์ทุ่งทานตะวัน..แต่มีอยู่แค่กระจิ๊ดนึงตรงตรงข้ามสวนองุ่นปภัสรา..
..ขอบคุณทุกท่านที่เยี่ยมชม+ชี้แนะ...และขอบคุณพื้นที่แห่งนี้ครับ..

"เขาพญาเดินธง"เปลี่ยนแปลงไปเยอะเลยนะครับ

[..ครับ..ไม่เหมือนครั้งที่น้าชิตไปด้วย..ที่เรานอนในสำนักสงฆ์แค่สามคน..ตอนนี้พอหกโมงเย็นเค้าเชิญออกนอกรั้วขอบเขตสังฆาวาสแล้ว..หกโมงเช้าจึงเขาไปได้ไหม่....ก็ต้องทำแบบนี้แหละ...ไม่งั้นพระจะไม่ได้จำวัด..แถมเครื่องดองของเมาจะเกลื่อนไปหมดครับ..]

"เขาพญาเดินธง"เปลี่ยนแปลงไปเยอะเลยนะครับ

..ครับ..ไม่เหมือนครั้งที่น้าชิตไปด้วย..ที่เรานอนในสำนักสงฆ์แค่สามคน..
ตอนนี้พอหกโมงเย็นเค้าเชิญออกนอกรั้วขอบเขตสังฆาวาสแล้ว..หกโมงเช้าจึงเขาไปได้ไหม่..
..ก็ต้องทำแบบนี้แหละ...ไม่งั้นพระจะไม่ได้จำวัด..แถมเครื่องดองของเมาจะเกลื่อนไปหมดครับ..