ต่อไป »

[..วันนี้ออกจากบ้านมาราวๆเที่ยง..เกือบบ่ายโมงผมก็มาถึงที่นี่..พระสมุทรเจดีย์ครับ..อดีตตอนที่สร้างนั้นเจดีย์นี้เป็นเกาะอยู่ริมฝั่งขวาของแม่น้ำเจ้าพระยา..แต่ต่อมากระแสน้ำเปลี่ยนทางบวกกับมีการขนดินมาถม..จนปัจจุบันนี้เป็นแผ่นดินเดียวกับฝั่งขวาเจ้าพระยาไปแล้วใครสนใจใคร่รู้ประวัติก็เสริ์ชหาเอาในกูเกิ้ลนะครับ..ผมขี้เกียจจารนัยตรงนี้..]

..วันนี้ออกจากบ้านมาราวๆเที่ยง..เกือบบ่ายโมงผมก็มาถึงที่นี่..พระสมุทรเจดีย์ครับ..
อดีตตอนที่สร้างนั้นเจดีย์นี้เป็นเกาะอยู่ริมฝั่งขวาของแม่น้ำเจ้าพระยา..แต่ต่อมากระแสน้ำเปลี่ยนทางบวกกับมีการขนดินมาถม..จนปัจจุบันนี้เป็นแผ่นดินเดียวกับฝั่งขวาเจ้าพระยาไปแล้ว
ใครสนใจใคร่รู้ประวัติก็เสริ์ชหาเอาในกูเกิ้ลนะครับ..ผมขี้เกียจจารนัยตรงนี้..

[..เข้ามาในพระอุโบสถต์ในวันปกติที่ไม่อยู่ในช่วงจัดงานเจดีย์ก็จะเงียบเหงาประมาณนี้ครับ..แต่นี่ก็อยู่ในช่วงเตรียมงานแล้ว..โดยดูจากยอดฉัตรเจ็ดชั้นที่เตรียมไว้ประดับองค์เจดีย์นั่น..ไม่ได้หรูหราอลังการอะไร..เพราะไม่ได้ทำพุทธพานิชย์..มีเพียงพระพุทธรูปปางห้ามสมุทรองค์ใหญ่ไว้ให้สักการะบูชา..ผมนี่หลงไหลกับเลนส์ฟิชอายครับ..ถ่ายง่าย..กดทีเดียวแทบจะได้โลกทั้งใบ..ทุกสิ่งอย่างเลยดูโค้งมนไปหมด..อิๆๆ]

..เข้ามาในพระอุโบสถต์ในวันปกติที่ไม่อยู่ในช่วงจัดงานเจดีย์ก็จะเงียบเหงาประมาณนี้ครับ..แต่นี่ก็อยู่ในช่วงเตรียมงานแล้ว..โดยดูจากยอดฉัตรเจ็ดชั้นที่เตรียมไว้ประดับองค์เจดีย์นั่น..
ไม่ได้หรูหราอลังการอะไร..เพราะไม่ได้ทำพุทธพานิชย์..มีเพียงพระพุทธรูปปางห้ามสมุทรองค์ใหญ่ไว้ให้สักการะบูชา..
ผมนี่หลงไหลกับเลนส์ฟิชอายครับ..ถ่ายง่าย..กดทีเดียวแทบจะได้โลกทั้งใบ..ทุกสิ่งอย่างเลยดูโค้งมนไปหมด..อิๆๆ

[..จากนั้นเดินข้ามสะพานเหล็กเพื่อไปป้อมผีเสื้อสมุทร..ซึ่งปัจจุบันยังเป็นเกาะริมแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่ครับ..เมื่อลงจากสะพานแล้วก็เดินบนทางปูนยกระดับไปราวสามร้อยห้าสิบเมตรก็เข้าสู่ตัวป้อมซึ่งปัจจุบันนี้ไม่ได้ใช้เป็นป้อมปืนใหญ่แล้ว..เป็นเพียงพิพิธภัณฑ์ในความดูแลของกองทัพเรือ..]

..จากนั้นเดินข้ามสะพานเหล็กเพื่อไปป้อมผีเสื้อสมุทร..ซึ่งปัจจุบันยังเป็นเกาะริมแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่ครับ..
เมื่อลงจากสะพานแล้วก็เดินบนทางปูนยกระดับไปราวสามร้อยห้าสิบเมตรก็เข้าสู่ตัวป้อมซึ่งปัจจุบันนี้ไม่ได้ใช้เป็นป้อมปืนใหญ่แล้ว..เป็นเพียงพิพิธภัณฑ์ในความดูแลของกองทัพเรือ..

[..สิ่งที่ยังหลงเหลืออยู่ก็คือป้อมปืนซึ่งเป็นเศษเหล็กนี่..กับเนินดินที่เป็นบังเกอร์ของตัวปืนในยุคนั้น..พร้อมกับมีอาคารที่ก่อสร้างอย่างแข็งแรงเพื่อไว้หลบระเบิดครับ..ผมไม่แน่ใจนักว่าที่นี่เคยใช้ต่อสู้กับทหารฝรั่งเศษที่ส่งเรือรบเข้ามาในยุค ร.4 และเค้าชนะพร้อมทั้งทำลายป้อมปืนนี้..จนเดินเรือเข้าไปจอดเทียบท่าหน้าพระราชวัง..และบังคับให้ไทยต้องชดใช้ค่าปฏิกรสงคราม..จนเป็นที่มาของ"เงินถุงแดง"ที่ใช้เกวียนบรรทุกออกจากวังไปลงเรือให้เค้าจนถนนสึกเป็นร่องมั้ยนะ..ใครอยากรู้ก็ถามกูเกิ้ลเอานั่นแหละครับ..]

..สิ่งที่ยังหลงเหลืออยู่ก็คือป้อมปืนซึ่งเป็นเศษเหล็กนี่..กับเนินดินที่เป็นบังเกอร์ของตัวปืนในยุคนั้น..พร้อมกับมีอาคารที่ก่อสร้างอย่างแข็งแรงเพื่อไว้หลบระเบิดครับ..
ผมไม่แน่ใจนักว่าที่นี่เคยใช้ต่อสู้กับทหารฝรั่งเศษที่ส่งเรือรบเข้ามาในยุค ร.4  และเค้าชนะพร้อมทั้งทำลายป้อมปืนนี้..จนเดินเรือเข้าไปจอดเทียบท่าหน้าพระราชวัง..
และบังคับให้ไทยต้องชดใช้ค่าปฏิกรสงคราม..จนเป็นที่มาของ"เงินถุงแดง"ที่ใช้เกวียนบรรทุกออกจากวังไปลงเรือให้เค้าจนถนนสึกเป็นร่องมั้ยนะ..ใครอยากรู้ก็ถามกูเกิ้ลเอานั่นแหละครับ..

[..เดินมาทางด้านติดริมแม่น้ำครับ..มีพระบรมรูปของกรมหลวงชุมพรประดิษฐานอยู่..ตอนที่ไปเป็นอันนี้ครับแต่เห็นกำลังสร้างใหม่ใหญ่โตโอฬาร..และบัดนี้ได้ข่าวว่าเสร็จแล้ว..ส่วนธงช้างที่เห็นนี้ใช้ในกองทัพเรือครับ..และปัจจุบันเราก็จะเห็นกองทัพเรือใช้ธงไตรรงค์ที่มีช้างอยู่กลางธงเป็นหลัก..ด้านท่าเรือนั้นมองข้ามฝั่งไปก็จะเห็นหอชมเมืองโดดเด่นเป็นสง่าอยู่..]

..เดินมาทางด้านติดริมแม่น้ำครับ..มีพระบรมรูปของกรมหลวงชุมพรประดิษฐานอยู่..ตอนที่ไปเป็นอันนี้ครับแต่เห็นกำลังสร้างใหม่ใหญ่โตโอฬาร..และบัดนี้ได้ข่าวว่าเสร็จแล้ว..
ส่วนธงช้างที่เห็นนี้ใช้ในกองทัพเรือครับ..และปัจจุบันเราก็จะเห็นกองทัพเรือใช้ธงไตรรงค์ที่มีช้างอยู่กลางธงเป็นหลัก..
ด้านท่าเรือนั้นมองข้ามฝั่งไปก็จะเห็นหอชมเมืองโดดเด่นเป็นสง่าอยู่..

[..ย้อนกลับมาด้านในป้อม..พาท่านมาชมอาคารที่ใช้เก็บยุทธภัณฑ์ครับ..แต่ปัจจุบันใช้เพียงไว้ตั้งศาลนี้เท่านั้น..ต้องแจ้งว่าปัจจุบันนี้ด้านในของตัวป้อมพื้นดินคงทรุดต่ำ..บ่อยครั้งที่เวลาฝนตกหนักสูบน้ำออกไม่ทันน้ำจะท่วมพื้นยี่สามสิบเซ็นต์..]

..ย้อนกลับมาด้านในป้อม..พาท่านมาชมอาคารที่ใช้เก็บยุทธภัณฑ์ครับ..แต่ปัจจุบันใช้เพียงไว้ตั้งศาลนี้เท่านั้น..
ต้องแจ้งว่าปัจจุบันนี้ด้านในของตัวป้อมพื้นดินคงทรุดต่ำ..บ่อยครั้งที่เวลาฝนตกหนักสูบน้ำออกไม่ทันน้ำจะท่วมพื้นยี่สามสิบเซ็นต์..

[..เดินขึ้นมาบนเนินดินที่ถมไว้เพื่อกันกระสุนข้าศึกครับ..คือเวลาเราจะยิงเค้าเราก็ยกปืนสูงขึ้นมา..พอเลิกยิงเราก็มุดกลับลงไปต่ำกว่าเนินนี้..มันเป็นเทคนิคของยุคนั้นครับ....ขอบคุณทุกท่านที่เยี่ยมชม+ชี้แนะ...และขอบคุณพื้นที่แห่งนี้ครับ..]

..เดินขึ้นมาบนเนินดินที่ถมไว้เพื่อกันกระสุนข้าศึกครับ..คือเวลาเราจะยิงเค้าเราก็ยกปืนสูงขึ้นมา..พอเลิกยิงเราก็มุดกลับลงไปต่ำกว่าเนินนี้..มันเป็นเทคนิคของยุคนั้นครับ..
..ขอบคุณทุกท่านที่เยี่ยมชม+ชี้แนะ...และขอบคุณพื้นที่แห่งนี้ครับ..