ต่อไป »

[..ห้องนี้ช่วงนี้ก็คงมีแต่เหยี่ยวแดงนี่แหละครับ..เพราะถ่ายมาเยอะ...อิๆๆคือเจ้าตัวนี้คนดูมันจะไม่เร้าใจเท่าคนถ่ายครับ..เพราะคนถ่ายนั้นต้องใช้ฝีมือและความว่องไวในการคอนโทรลให้นกที่กำลังบินอยู่ในเฟรมให้ได้..จากนั้นก็ความรวดเร็วในการโฟกัสของกล้องที่ใช้..และจำนวนภาพที่จะถ่ายได้ต่อวินาทีของกล้องซึ่งก็สำคัญมากๆเช่นกัน..]

..ห้องนี้ช่วงนี้ก็คงมีแต่เหยี่ยวแดงนี่แหละครับ..เพราะถ่ายมาเยอะ...อิๆๆ
คือเจ้าตัวนี้คนดูมันจะไม่เร้าใจเท่าคนถ่ายครับ..เพราะคนถ่ายนั้นต้องใช้ฝีมือและความว่องไวในการคอนโทรลให้นกที่กำลังบินอยู่ในเฟรมให้ได้..
จากนั้นก็ความรวดเร็วในการโฟกัสของกล้องที่ใช้..และจำนวนภาพที่จะถ่ายได้ต่อวินาทีของกล้องซึ่งก็สำคัญมากๆเช่นกัน..

[..นี่ถ้าเป็นยุคกล้องที่ใช้ฟลิ์มผมไม่ถ่ายนกเด็ดขาด..เพราะค่าใช้จ่ายมันแพงมาก..ลองคิดดูว่าฟลิ์มม้วนนึงถ่ายได้สามสิบหกรูป..ค่าฟลิ์มม้วนละร้อยยี่สิบ+ค่าล้าง+ค่าอัดปาเข้าไปเท่าไหร่..เหอๆๆถ่ายครั้งละสามสี่พันใบนี่..ต้องขายที่ขายบ้านมาถ่ายกันซะมั้ง....ใบหลังๆที่ท่านเห็นฉากเป็นสีแดงนั่น..เพราะขอบตลิ่งริมบึงมันถล่มลงมาด้วยฝนตกหนักและความชันของตลิ่งทำให้ดินลูกรังมันสไลด์ลงมา..]

..นี่ถ้าเป็นยุคกล้องที่ใช้ฟลิ์มผมไม่ถ่ายนกเด็ดขาด..เพราะค่าใช้จ่ายมันแพงมาก..
ลองคิดดูว่าฟลิ์มม้วนนึงถ่ายได้สามสิบหกรูป..ค่าฟลิ์มม้วนละร้อยยี่สิบ+ค่าล้าง+ค่าอัดปาเข้าไปเท่าไหร่..เหอๆๆ
ถ่ายครั้งละสามสี่พันใบนี่..ต้องขายที่ขายบ้านมาถ่ายกันซะมั้ง..
..ใบหลังๆที่ท่านเห็นฉากเป็นสีแดงนั่น..เพราะขอบตลิ่งริมบึงมันถล่มลงมาด้วยฝนตกหนักและความชันของตลิ่งทำให้ดินลูกรังมันสไลด์ลงมา..

[..นี่ในครัวเอาอาหารมาหว่านเป็นรอบที่สองตอนเที่ยงวันครับ..เจ้าเหยี่ยวที่กำลังหิวจัดใจกล้าบินมาโฉบทันทีที่อาหารลงผิวน้ำกันเลย..แย่งกันทั้งปลาทั้งนก..เล่นกันซะน้ำกระเซ็นซ่า..หลายๆใบที่ถ่ายมานั้นจะเห็นกระโดงปลาที่กำลังตวัดกลับตัวอยู่ด้วย..และไอ้ผุดพรายที่น้ำกระเซ็นแรงๆนั้นเป็นฝีกระโดงของปลาทั้งนั้นครับ..ไม่ใช่กรงเล็บของเหยี่ยว..เพราะเวลามันขยุ้มนั้นน้ำกระเซ็นนิดเดียวเอง..]

..นี่ในครัวเอาอาหารมาหว่านเป็นรอบที่สองตอนเที่ยงวันครับ..เจ้าเหยี่ยวที่กำลังหิวจัดใจกล้าบินมาโฉบทันทีที่อาหารลงผิวน้ำกันเลย..
แย่งกันทั้งปลาทั้งนก..เล่นกันซะน้ำกระเซ็นซ่า..หลายๆใบที่ถ่ายมานั้นจะเห็นกระโดงปลาที่กำลังตวัดกลับตัวอยู่ด้วย..
และไอ้ผุดพรายที่น้ำกระเซ็นแรงๆนั้นเป็นฝีกระโดงของปลาทั้งนั้นครับ..ไม่ใช่กรงเล็บของเหยี่ยว..เพราะเวลามันขยุ้มนั้นน้ำกระเซ็นนิดเดียวเอง..

[..มันต้องใช้ทักษะในการถ่ายพอสมควรทีเดียว..กับการถ่ายเหยี่ยวบินนี้..ด้วยว่าเวลาที่สายตาเรามองผ่านเลนส์นั้นมุมที่จะเห็นมันแคบครับ..คือเวลาเรามองด้วยตาเปล่าองศาการรับภาพจะอยู่ที่ราวๆ 46 องศา(นี่เป็นข้อมูลของแคนน่อนที่จักษุแพทย์ทั่วโลกยอมรับ)แต่เมื่อมองผ่านเลนส์ 200 มิลจะเหลือ 12 องศา..ที่ 300 มิลเหลือ 8.5 องศา..และที่ 400 มิลเหลือ 6.1 องศา]

..มันต้องใช้ทักษะในการถ่ายพอสมควรทีเดียว..กับการถ่ายเหยี่ยวบินนี้..ด้วยว่าเวลาที่สายตาเรามองผ่านเลนส์นั้นมุมที่จะเห็นมันแคบครับ..
คือเวลาเรามองด้วยตาเปล่าองศาการรับภาพจะอยู่ที่ราวๆ 46 องศา(นี่เป็นข้อมูลของแคนน่อนที่จักษุแพทย์ทั่วโลกยอมรับ)
แต่เมื่อมองผ่านเลนส์ 200 มิลจะเหลือ 12 องศา..ที่ 300 มิลเหลือ 8.5 องศา..และที่ 400 มิลเหลือ 6.1 องศา

[..ด้วยความที่มุมภาพมันแคบ..เวลาที่นกบินผ่านเข้ากล้องเราจึงต้องหันกล้องตามให้เร็วพอที่นกจะไม่หลุดออกจากเฟรมไป..พอกล้องโฟกัสแล้วเราก็จับจังหวะกดชัตเตอร์ตอนที่นกลงขยุ้มเหยื่อ..คุณจวงใช้เลนส์ 400 มิลเอฟ 2.8 ซึ่งโฟกัสรวดเร็วมาก..และใช้กล้อง 1 ดีเอ็กซ์มร์าคทูซึ่งมีความเร็วราว 15 เฟรมต่อวินาที..ซึ่งเท่ากับท่านมองผ่านกล้องด้วยมุมมอง 6.1 องศาเพราะเป็นกล้องแบบฟูลเฟรม..ส่วนผมใช้เลนส์ 150-600 มิล..แต่ถอยซูมมาถ่ายที่ 250 มิลเพราะผมใช้กล้องตัวคูณ 1.6 เท่า..ซึ่งเมื่อคูณแล้วก็เท่ากับผมมองผ่านเลนส์ที่ 6.1 องศาเท่ากับคุณจวงนั่นแหละ..เหตุผลที่ผมเลือกใช้ 7 ดีมร์าคทูนี่เพราะว่าเจ้า 5 ดีมร์าคทรีมันช้าครับ..คือถ่ายได้แค่ราวห้าเฟรมต่อวินาที..เจ้า 7 ดีได้มากกว่า..คือได้ 10 เฟรมต่อวินาที..ถ่ายจังหวะต่อเนื่องได้มากกว่า 5 ดี....ไม่อยากนึกถึงยุคกล้องฟลิ์มเลย..เพราะเวลานั้นกล้องที่เร็วที่สุดโดยใช้มอเตอร์ไดร์มีความเร็วแค่ 3.2 เฟรมต่อวินาที...ไม่ทันกินหรอก..เหอๆๆ]

..ด้วยความที่มุมภาพมันแคบ..เวลาที่นกบินผ่านเข้ากล้องเราจึงต้องหันกล้องตามให้เร็วพอที่นกจะไม่หลุดออกจากเฟรมไป..พอกล้องโฟกัสแล้วเราก็จับจังหวะกดชัตเตอร์ตอนที่นกลงขยุ้มเหยื่อ..
คุณจวงใช้เลนส์ 400 มิลเอฟ 2.8 ซึ่งโฟกัสรวดเร็วมาก..และใช้กล้อง 1 ดีเอ็กซ์มร์าคทูซึ่งมีความเร็วราว 15 เฟรมต่อวินาที..ซึ่งเท่ากับท่านมองผ่านกล้องด้วยมุมมอง 6.1 องศาเพราะเป็นกล้องแบบฟูลเฟรม..
ส่วนผมใช้เลนส์ 150-600 มิล..แต่ถอยซูมมาถ่ายที่ 250 มิลเพราะผมใช้กล้องตัวคูณ 1.6 เท่า..ซึ่งเมื่อคูณแล้วก็เท่ากับผมมองผ่านเลนส์ที่ 6.1 องศาเท่ากับคุณจวงนั่นแหละ..
เหตุผลที่ผมเลือกใช้ 7 ดีมร์าคทูนี่เพราะว่าเจ้า 5 ดีมร์าคทรีมันช้าครับ..คือถ่ายได้แค่ราวห้าเฟรมต่อวินาที..เจ้า 7 ดีได้มากกว่า..คือได้ 10 เฟรมต่อวินาที..ถ่ายจังหวะต่อเนื่องได้มากกว่า 5 ดี..
..ไม่อยากนึกถึงยุคกล้องฟลิ์มเลย..เพราะเวลานั้นกล้องที่เร็วที่สุดโดยใช้มอเตอร์ไดร์มีความเร็วแค่ 3.2 เฟรมต่อวินาที...ไม่ทันกินหรอก..เหอๆๆ

[..ส่วนเรื่องไอเอสโอนั้นผมดันไปที่ 1600 สุดทางที่น้อยส์ของเจ้า 7 ดีที่ผมจะรับได้แล้วครับ..ส่วนสปีดชัตเตอร์นั้นมันก็วิ่งอยู่แถวๆ1/2000-1/4000 วินาที..แล้วแต่จังหวะและมุมแสงเพราะใช้โหมดให้สปีดชัตเตอร์วิ่งตามเอฟสต๊อปที่ตั้งไว้ที่ 6.3]

..ส่วนเรื่องไอเอสโอนั้นผมดันไปที่ 1600 สุดทางที่น้อยส์ของเจ้า 7 ดีที่ผมจะรับได้แล้วครับ..
ส่วนสปีดชัตเตอร์นั้นมันก็วิ่งอยู่แถวๆ1/2000-1/4000 วินาที..แล้วแต่จังหวะและมุมแสงเพราะใช้โหมดให้สปีดชัตเตอร์วิ่งตามเอฟสต๊อปที่ตั้งไว้ที่ 6.3

[..ถ่ายที่นี่ผมไม่ชอบอยู่สองอย่าง..คือสีของน้ำมันออกเขียวเพราะสะท้อนสีจากป่าข้างหลังบึง..อีกเรื่องคืออาหารที่หว่านโปรยลงมาทำให้พื้นน้ำเป็นจุดเป็นเส้นสีขาวๆรบกวนสายตา....ขอบคุณทุกท่านที่เยี่ยมชม+ชี้แนะ...และขอบคุณพื้นที่แห่งนี้ครับ..]

..ถ่ายที่นี่ผมไม่ชอบอยู่สองอย่าง..คือสีของน้ำมันออกเขียวเพราะสะท้อนสีจากป่าข้างหลังบึง..
อีกเรื่องคืออาหารที่หว่านโปรยลงมาทำให้พื้นน้ำเป็นจุดเป็นเส้นสีขาวๆรบกวนสายตา..
..ขอบคุณทุกท่านที่เยี่ยมชม+ชี้แนะ...และขอบคุณพื้นที่แห่งนี้ครับ..