ต่อไป »

[..เมื่อคืนหลังจากอิ่มมื้อเย็นจากในเมืองแล้วผมก็ไปที่พักที่เสริ์ชเอาจากเน็ต..อยู่แถวชานเมืองออกมานิดนึง..ราคาแจ้งไว้แปดร้อย..แต่ผมหักคอในราคาไกด์เหลือหกร้อย..ฮ่าๆๆ..เค้าต้องยอมเพราะแทบจะไม่มีลูกค้าเข้าพักเลย..เป็นรีสร์อททันสมัยใหม่เอี่ยมครับ..นอนสบาย...เช้ามาฟาดกาแฟกับขนมที่ซื้อไว้ตั้งแต่เมื่อคืน..จะได้ไม่ต้องไปแวะหากินที่ไหนอีก....จากนั้นขนของขึ้นรถตั้ง GPS.ไปวัดก๋ง เจ้ากูเกิ้ลบอกมาว่าระยะทาง 53.8 กม.ใช้เวลา 52 นาที..เมื่อมาถึงวัด..ที่ลานจอดรถยังไม่มีรถนักท่องเที่ยวเลย..ผมเดินเข้าไปถ่ายใบแรกนี่ตอน 08.09 น.]

https://www.google.co.th/maps/place/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A5/@19.0728238,100.8276058,11.75z/data=!4m5!3m4!1s0x3127e5df1d124837:0xd31f1f636348ce40!8m2!3d19.0821762!4d100.8877487

..เมื่อคืนหลังจากอิ่มมื้อเย็นจากในเมืองแล้วผมก็ไปที่พักที่เสริ์ชเอาจากเน็ต..อยู่แถวชานเมืองออกมานิดนึง..
ราคาแจ้งไว้แปดร้อย..แต่ผมหักคอในราคาไกด์เหลือหกร้อย..ฮ่าๆๆ..เค้าต้องยอมเพราะแทบจะไม่มีลูกค้าเข้าพักเลย..
เป็นรีสร์อททันสมัยใหม่เอี่ยมครับ..นอนสบาย...เช้ามาฟาดกาแฟกับขนมที่ซื้อไว้ตั้งแต่เมื่อคืน..จะได้ไม่ต้องไปแวะหากินที่ไหนอีก..
..จากนั้นขนของขึ้นรถตั้ง GPS.ไปวัดก๋ง  เจ้ากูเกิ้ลบอกมาว่าระยะทาง 53.8 กม.ใช้เวลา 52 นาที..
เมื่อมาถึงวัด..ที่ลานจอดรถยังไม่มีรถนักท่องเที่ยวเลย..ผมเดินเข้าไปถ่ายใบแรกนี่ตอน 08.09 น.

[..รีบเข้าไปเก็บภาพที่ด้านในก่อนครับ...เพราะเกรงว่าเดี๋ยวสายอากาศจะร้อนด้วยแสงตะวัน..]

..รีบเข้าไปเก็บภาพที่ด้านในก่อนครับ...เพราะเกรงว่าเดี๋ยวสายอากาศจะร้อนด้วยแสงตะวัน..

[..บรรยากาศร้านกาแฟในวัด..แต่ไม่รู้ว่าเป็นของวัดรึเปล่านะ..ชั้นบนเค้ามีที่นอนหมอนอิงไว้ให้บริการด้วย..ว่าแต่กินกาแฟแล้วมันจะหลับรึ??ผมไม่ได้ชิมของเค้าหรอกว่ารสชาดเป็นยังไง..เพราะบาริสต้าเจ้าของร้านยังไม่มากันเลย..แต่ถึงมาแล้วผมก็ไม่เสียเวลานั่งกินกาแฟหรอก..ด้วยต้องรีบเก็บภาพก่อนครับ..]

..บรรยากาศร้านกาแฟในวัด..แต่ไม่รู้ว่าเป็นของวัดรึเปล่านะ..
ชั้นบนเค้ามีที่นอนหมอนอิงไว้ให้บริการด้วย..ว่าแต่กินกาแฟแล้วมันจะหลับรึ??
ผมไม่ได้ชิมของเค้าหรอกว่ารสชาดเป็นยังไง..เพราะบาริสต้าเจ้าของร้านยังไม่มากันเลย..แต่ถึงมาแล้วผมก็ไม่เสียเวลานั่งกินกาแฟหรอก..ด้วยต้องรีบเก็บภาพก่อนครับ..

[..ลงไปฮักนาน่าน..ไอ้เทือกเขาด้านหลังที่เห็นลิบๆนั้นเลยออกไปอีกราวสามสิบกิโลมันก็เข้าเขตประเทศลาวแล้ว..หรือถ้าเราวิ่งตามถนนหมายเลข 101 จากเมืองน่านโดยไม่เลี้ยวขวามาที่นี่เสียก่อน..สุดทางนั้นมันก็จะถึง"ห้วยโก๋น"ซึ่งเป็นด่านชายแดนไทย-ลาว..และสามารถวิ่งต่อไป"ไซยยะบุรี"เข้าไป"หลวงพระบาง"ได้..มันน่าแปลกใจที่ทำไมไอ้ดินแดนตรงช่วงนี้ไม่ใช้แม่น้ำโขงเป็นตัวแบ่งกั้นชายแดนไทย-ลาวครับ..คือกลายเป็นมันไหลเข้าไปในประเทศลาว..หรืออีกนัยหนึ่งคือขอบประเทศลาวกินแดนข้ามมาฝั่งขวาของแม่น้ำโขง..มีชายแดนหกจังหวัดครับ..ที่ติดขอบประเทศลาวโดยไม่มีแม่น้ำโขงกั้น..เชียงราย/พะเยา-น่าน-อุตรดิตถ์-พิษณุโลก-เลย....หรือเพราะว่าตอนสมัย ร.5 ไทยเรายังไม่มีเรือดำน้ำ..ฝรั่งเศษมันจึงไม่เกรงใจ..เหอๆๆ]

..ลงไปฮักนาน่าน..ไอ้เทือกเขาด้านหลังที่เห็นลิบๆนั้นเลยออกไปอีกราวสามสิบกิโลมันก็เข้าเขตประเทศลาวแล้ว..
หรือถ้าเราวิ่งตามถนนหมายเลข 101 จากเมืองน่านโดยไม่เลี้ยวขวามาที่นี่เสียก่อน..สุดทางนั้นมันก็จะถึง"ห้วยโก๋น"ซึ่งเป็นด่านชายแดนไทย-ลาว..และสามารถวิ่งต่อไป"ไซยยะบุรี"เข้าไป"หลวงพระบาง"ได้..
มันน่าแปลกใจที่ทำไมไอ้ดินแดนตรงช่วงนี้ไม่ใช้แม่น้ำโขงเป็นตัวแบ่งกั้นชายแดนไทย-ลาวครับ..คือกลายเป็นมันไหลเข้าไปในประเทศลาว..หรืออีกนัยหนึ่งคือขอบประเทศลาวกินแดนข้ามมาฝั่งขวาของแม่น้ำโขง..
มีชายแดนหกจังหวัดครับ..ที่ติดขอบประเทศลาวโดยไม่มีแม่น้ำโขงกั้น..เชียงราย/พะเยา-น่าน-อุตรดิตถ์-พิษณุโลก-เลย..
..หรือเพราะว่าตอนสมัย ร.5  ไทยเรายังไม่มีเรือดำน้ำ..ฝรั่งเศษมันจึงไม่เกรงใจ..เหอๆๆ

[..นอกเรื่องไปไหนซะแล้ว..มาชมวัดกันต่อดีกว่า..คือด้านหลังวัดตรงนี้ผมเชื่อว่าแต่ก่อนมันก็คงท้องนาธรรมดานั่นแหละ..แต่ตอนนี้มีการปรับปรุงให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว..ใช้เป็นกุศโลบายเรียกคนเข้าวัด..ด้วยจับจุดได้ว่าผู้คนนักท่องเที่ยวในเมืองใหญ่บัดนี้กำลังโหยหาธรรมชาติ..เลยจัดสร้างวิถีชุมชนเศรษฐกิจพอเพียงให้ชมกัน..]

..นอกเรื่องไปไหนซะแล้ว..มาชมวัดกันต่อดีกว่า..
คือด้านหลังวัดตรงนี้ผมเชื่อว่าแต่ก่อนมันก็คงท้องนาธรรมดานั่นแหละ..แต่ตอนนี้มีการปรับปรุงให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว..ใช้เป็นกุศโลบายเรียกคนเข้าวัด..
ด้วยจับจุดได้ว่าผู้คนนักท่องเที่ยวในเมืองใหญ่บัดนี้กำลังโหยหาธรรมชาติ..เลยจัดสร้างวิถีชุมชนเศรษฐกิจพอเพียงให้ชมกัน..

[..นี่ย้อนจากท้องนามาเข้าโบสถ์แล้วครับ..และถ้าไม่มีโบสถ์หลังนี้ผมก็คงไม่คิดว่าที่นี่เป็นวัด...เหอๆๆ]

..นี่ย้อนจากท้องนามาเข้าโบสถ์แล้วครับ..และถ้าไม่มีโบสถ์หลังนี้ผมก็คงไม่คิดว่าที่นี่เป็นวัด...เหอๆๆ

[..ภาพก๋ง-รูปหล่อก๋งและใบที่สามนั้นก็รูปหล่อก๋งนั่นแหละ..แต่ตั้งอยู่ที่ศาลานอก..ไม่ใช่ในอุโบสถต์คำว่า"ก๋ง"นั้นในภาษาจีนคือ"ปู่"..แต่ในความหมายของที่นี่ผมไม่ทราบว่าแบบเดียวกันมั้ย..ใครอยากรู้ถามกูเกิ้ลดูนะครับ....มาชมทางเรือนพิพิธฑภัณฑ์..หน้าอาคารซึ่งเป็นไม้สองชั้นนี้มีภาพสามมิติที่พื้นให้เซลฟี่กันด้วย..ส่วนทางด้านข้างเป็นบ่อเลี้ยงปลาสวยงามที่ดูแล้วน่าจะเป็นเพศผู้ทั้งหมด..]

..ภาพก๋ง-รูปหล่อก๋งและใบที่สามนั้นก็รูปหล่อก๋งนั่นแหละ..แต่ตั้งอยู่ที่ศาลานอก..ไม่ใช่ในอุโบสถต์
คำว่า"ก๋ง"นั้นในภาษาจีนคือ"ปู่"..แต่ในความหมายของที่นี่ผมไม่ทราบว่าแบบเดียวกันมั้ย..ใครอยากรู้ถามกูเกิ้ลดูนะครับ..
..มาชมทางเรือนพิพิธฑภัณฑ์..หน้าอาคารซึ่งเป็นไม้สองชั้นนี้มีภาพสามมิติที่พื้นให้เซลฟี่กันด้วย..
ส่วนทางด้านข้างเป็นบ่อเลี้ยงปลาสวยงามที่ดูแล้วน่าจะเป็นเพศผู้ทั้งหมด..

[..ชั้นล่างของอาคาร..เก็บสารพัดอุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ในอดีตไว้ให้ลุกหลานได้ชมกัน..]

..ชั้นล่างของอาคาร..เก็บสารพัดอุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ในอดีตไว้ให้ลุกหลานได้ชมกัน..

[..ชั้นบน..เมื่อขึ้นบันไดไปถึงก็จะเจอกับก๋งนั่งเด่นเป็นสง่าอยู่ครับ..ได้ถ่ายมาแต่ก๋งนี่แหละ..เพราะด้านในซึ่งเก็บอุปกรณ์ถ้วยโถโอชามแตกๆเก่าๆยุคสังคโลกเค้าไม่ให้ถ่ายรูปครับ..คงจะกลัวสึกกร่อนหมดมั้ง..ฮี่ๆๆ]

..ชั้นบน..เมื่อขึ้นบันไดไปถึงก็จะเจอกับก๋งนั่งเด่นเป็นสง่าอยู่ครับ..
ได้ถ่ายมาแต่ก๋งนี่แหละ..เพราะด้านในซึ่งเก็บอุปกรณ์ถ้วยโถโอชามแตกๆเก่าๆยุคสังคโลกเค้าไม่ให้ถ่ายรูปครับ..คงจะกลัวสึกกร่อนหมดมั้ง..ฮี่ๆๆ

[..ลงจากเรือนพิพิธฑภัณฑ์..ด้านหน้าเค้าจัดสถานที่ไว้แบบนี้..ในบริเวณทั้งหมดของที่นี่มีจุดให้ถ่ายรูปและเซลฟี่เอาใจนักท่องเที่ยวมากมาย..ถูกใจท่าน ผบ.ทบ.เป็นยิ่งนัก..ฮ่าๆๆคือทั้งหมดทั้งมวลผมดูแล้วมีความเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร+พิพิธฑภัณฑ์พื้นบ้านราว 90 เปอร์เซนต์..เป็นวัด+เขตพุทธาวาสราว 10 เปอเซนต์ครับ..]

..ลงจากเรือนพิพิธฑภัณฑ์..ด้านหน้าเค้าจัดสถานที่ไว้แบบนี้..ในบริเวณทั้งหมดของที่นี่มีจุดให้ถ่ายรูปและเซลฟี่เอาใจนักท่องเที่ยวมากมาย..ถูกใจท่าน ผบ.ทบ.เป็นยิ่งนัก..ฮ่าๆๆ
คือทั้งหมดทั้งมวลผมดูแล้วมีความเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร+พิพิธฑภัณฑ์พื้นบ้านราว 90 เปอร์เซนต์..เป็นวัด+เขตพุทธาวาสราว 10 เปอเซนต์ครับ..

[..วนออกมาหน้าวัดละ..หลังจากถ่ายใบสุดท้ายนั่นตอน 10.43 น.ก็ไปหามื้อเที่ยง+กาแฟตรงหน้าวัดนั่นแหละ..ผมถามท่าน ผบ.ว่ามีอีกวัดอยู่ไม่ไกลจากนี้นัก..ชื่อวัดภูเก็ต..จะไปมั้ย??..ท่าน ผบ..ส่ายหน้าบอกพอละ...ฮ่าๆๆงั้นผมก็ตั้ง GPS มุ่งหน้ากลับบ้านกันซะที..ออกเดินทางจากหน้าวัดนี้ตอนราว 11.30 น. ย้อนกลับมาทางน่าน-แพร่-อุตรดิตถ์-พิษณุโลก-พิจิตร-นครสวรรค์..แล้วเกาะสายเอเซียลงกรุงเทพ..ระยะทางตรงนี้ 738 กิโลเมตร..ใช้เวลาวิ่งโดยไม่หยุดพักราว 9.45 ชั่วโมง..แต่ผมแวะกินมื้อเย็นที่ครัวน้องเปิ้ลก่อนครับ..กลับถึงบ้านเอาเกือบๆสี่ทุ่ม..สรุปทั้งทริปแปดวันนี่ใช้ระยะทางทั้งทางเรียบและขึ้นเขาลงห้วยไป 2396 กิโลเมตร..ส่วนค่าน้ำมันใช้ไปเท่าไหร่จำไม่ได้ละ....ขอบคุณทุกท่านที่เยี่ยมชม+ชี้แนะ...และขอบคุณพื้นที่แห่งนี้ครับ..]

..วนออกมาหน้าวัดละ..หลังจากถ่ายใบสุดท้ายนั่นตอน 10.43 น.ก็ไปหามื้อเที่ยง+กาแฟตรงหน้าวัดนั่นแหละ..
ผมถามท่าน ผบ.ว่ามีอีกวัดอยู่ไม่ไกลจากนี้นัก..ชื่อวัดภูเก็ต..จะไปมั้ย??..ท่าน ผบ..ส่ายหน้าบอกพอละ...ฮ่าๆๆ
งั้นผมก็ตั้ง GPS มุ่งหน้ากลับบ้านกันซะที..ออกเดินทางจากหน้าวัดนี้ตอนราว 11.30 น.  ย้อนกลับมาทางน่าน-แพร่-อุตรดิตถ์-พิษณุโลก-พิจิตร-นครสวรรค์..แล้วเกาะสายเอเซียลงกรุงเทพ..
ระยะทางตรงนี้ 738 กิโลเมตร..ใช้เวลาวิ่งโดยไม่หยุดพักราว 9.45 ชั่วโมง..แต่ผมแวะกินมื้อเย็นที่ครัวน้องเปิ้ลก่อนครับ..กลับถึงบ้านเอาเกือบๆสี่ทุ่ม..
สรุปทั้งทริปแปดวันนี่ใช้ระยะทางทั้งทางเรียบและขึ้นเขาลงห้วยไป 2396 กิโลเมตร..ส่วนค่าน้ำมันใช้ไปเท่าไหร่จำไม่ได้ละ..
..ขอบคุณทุกท่านที่เยี่ยมชม+ชี้แนะ...และขอบคุณพื้นที่แห่งนี้ครับ..

วัดหรือครับ

[ครับ..ชื่อในกูเกิ้ลระบุว่าเป็นวัด..แต่ในความเป็นจริงคือพิพิธฑภัณฑ์+แหล่งท่องเที่ยวมากกว่า..]

วัดหรือครับ

ครับ..ชื่อในกูเกิ้ลระบุว่าเป็นวัด..แต่ในความเป็นจริงคือพิพิธฑภัณฑ์+แหล่งท่องเที่ยวมากกว่า..

เดี๋ยวนี้  แม้แต่วัดยังเพี้ยน

[..แหม...เค้าเรียกว่าใช้กุศโลบายเรียกทรัพย์...เอ๊ยยย...เรียกคนเข้าวัด..ฮี่ๆๆๆ]

เดี๋ยวนี้  แม้แต่วัดยังเพี้ยน

..แหม...เค้าเรียกว่าใช้กุศโลบายเรียกทรัพย์...เอ๊ยยย...เรียกคนเข้าวัด..ฮี่ๆๆๆ