ต่อไป »

[..คณะเรารอเจ้าหัวตั้งนานจนไกด์เออดรนทนไม่ได้..ออกจากไบลด์บอกว่าจะขับรถไปไล่ต้อนเค้ากลับมาให้ถ่ายอีกรอบ..แล้วหลังจากนั้นราวชั่วโมงเจ้าตัวดีก็บินกลับมาเกาะกิ่งอีกครั้ง...ฮ่าๆๆนี่ต้องขอบคุณไกด์เอเป็นอย่างยิ่งที่ไปต้อนมาให้ลูกค้าได้ถ่าย..คณะเราเลยได้อานิสงฆ์ไปด้วยครับ..]

..คณะเรารอเจ้าหัวตั้งนานจนไกด์เออดรนทนไม่ได้..ออกจากไบลด์บอกว่าจะขับรถไปไล่ต้อนเค้ากลับมาให้ถ่ายอีกรอบ..
แล้วหลังจากนั้นราวชั่วโมงเจ้าตัวดีก็บินกลับมาเกาะกิ่งอีกครั้ง...ฮ่าๆๆนี่ต้องขอบคุณไกด์เอเป็นอย่างยิ่งที่ไปต้อนมาให้ลูกค้าได้ถ่าย..คณะเราเลยได้อานิสงฆ์ไปด้วยครับ..

[..15.50 น.เค้ากลับมาเกาะ..แต่เกาะอยู่ราวสี่นาที..นั่งไซ้ขนสบายใจแล้วเค้าก็บินจากไป..]

..15.50 น.เค้ากลับมาเกาะ..แต่เกาะอยู่ราวสี่นาที..นั่งไซ้ขนสบายใจแล้วเค้าก็บินจากไป..

[..ระยะได้+แสงดี..นี่ถือว่าเป็นที่น่าพอใจแล้วครับ..ถึงแม้จะไม่มีเกาะคู่หรือจับปลาขึ้นมาฟาดให้ดูก็ถือว่าคุ้มค่าแล้วครับ..เพราะก่อนหน้านี้ที่เคยถ่ายได้ที่ช่องเย็นสองครั้งมันไกล..และแสงช่วงเช้ามืดมันยังมัวซัวครับ..]

..ระยะได้+แสงดี..นี่ถือว่าเป็นที่น่าพอใจแล้วครับ..ถึงแม้จะไม่มีเกาะคู่หรือจับปลาขึ้นมาฟาดให้ดูก็ถือว่าคุ้มค่าแล้วครับ..
เพราะก่อนหน้านี้ที่เคยถ่ายได้ที่ช่องเย็นสองครั้งมันไกล..และแสงช่วงเช้ามืดมันยังมัวซัวครับ..

[..ไกด์เอพาลูกทัวร์ออกไปก่อน..แต่คณะเราหวังจะได้อีกสักรอบเลยนั่งรอจนราวห้าโมงก็ไม่เห็นเค้ามาอีก..ก็ถอนไบลน์กลับไปภูตะวันรีสอร์ทอาบน้ำท่าแล้วมามื้อเย็นที่นั่นเลย..เพราะถ้าจะออกมาถึงเชียงดาวยังต้องมีอีกชั่วโมงนึง..อิ่มแล้วร่ำลาไกด์เอพร้อมขอแบ่งขนมนกมาเพิ่ม..เพราะที่ผมเตรียมมาจากกรุงเทพมันเปียกน้ำที่ดอยอินท์ไปหมดแล้ว..จากนั้นฝ่าความมืดและม่านหมอกวิ่งย้อนทางมาเชียงดาว....น้ำมันรถใกล้หมด...แต่ผมหวังหาปั๊มที่เมืองงายเพราะขี้เกียจวิ่งย้อนเข้าเชียงดาว..แต่ผ่านถึงเมืองงายหาปั๊มไม่เจอ..พอวิ่งไปอีกราวสิบกิโลก็ต้องจอดถามชาวบ้านว่าข้างหน้ามีปั๊มไหม..คำตอบคือมีที่เดียวที่เมืองงายนั่นแหละ..เลยต้องวิ่งย้อนทางมามองหาอีกที..โชคดีที่เห็นและเค้ายังไม่ปิด..จากนั้นโทรไปจองที่พักที่อ่างขาง..ปรากฏว่าเจ้านึงไม่รับสาย..แต่อีกเจ้ารับสายและบอกว่าช่วงนี้ปิดบริการ....ผมงง...ไฮซีซั่นแบบนี้ปิดได้ไง..เค้าแจ้งว่ามันปิดกันทั้งหมดเพราะจะมีการจัดระเบียบใหม่..ให้ผมหาที่พักเอาแถวผาแดงซึ่งอยู่ก่อนถึงอ่างขางราวยี่สิบกว่ากิโล..นี่ถือว่าโชคดีที่โทรไปก่อน..ไม่งั้นไปถึงอ่างขางแล้วไม่มีที่พักก็ต้องวิ่งย้อนทางลงมาผาแดงอีกนั่นแหละ..กว่าจะหาที่พักได้ก็ปาเข้าไปสี่ทุ่มแล้ว....ขอบคุณทุกท่านที่เยี่ยมชม+ชี้แนะ...และขอบคุณพื้นที่แห่งนี้ครับ..]

..ไกด์เอพาลูกทัวร์ออกไปก่อน..แต่คณะเราหวังจะได้อีกสักรอบเลยนั่งรอจนราวห้าโมงก็ไม่เห็นเค้ามาอีก..ก็ถอนไบลน์กลับไปภูตะวันรีสอร์ทอาบน้ำท่าแล้วมามื้อเย็นที่นั่นเลย..เพราะถ้าจะออกมาถึงเชียงดาวยังต้องมีอีกชั่วโมงนึง..
อิ่มแล้วร่ำลาไกด์เอพร้อมขอแบ่งขนมนกมาเพิ่ม..เพราะที่ผมเตรียมมาจากกรุงเทพมันเปียกน้ำที่ดอยอินท์ไปหมดแล้ว..จากนั้นฝ่าความมืดและม่านหมอกวิ่งย้อนทางมาเชียงดาว..
..น้ำมันรถใกล้หมด...แต่ผมหวังหาปั๊มที่เมืองงายเพราะขี้เกียจวิ่งย้อนเข้าเชียงดาว..แต่ผ่านถึงเมืองงายหาปั๊มไม่เจอ..พอวิ่งไปอีกราวสิบกิโลก็ต้องจอดถามชาวบ้านว่าข้างหน้ามีปั๊มไหม..คำตอบคือมีที่เดียวที่เมืองงายนั่นแหละ..
เลยต้องวิ่งย้อนทางมามองหาอีกที..โชคดีที่เห็นและเค้ายังไม่ปิด..จากนั้นโทรไปจองที่พักที่อ่างขาง..ปรากฏว่าเจ้านึงไม่รับสาย..แต่อีกเจ้ารับสายและบอกว่าช่วงนี้ปิดบริการ..
..ผมงง...ไฮซีซั่นแบบนี้ปิดได้ไง..เค้าแจ้งว่ามันปิดกันทั้งหมดเพราะจะมีการจัดระเบียบใหม่..ให้ผมหาที่พักเอาแถวผาแดงซึ่งอยู่ก่อนถึงอ่างขางราวยี่สิบกว่ากิโล..นี่ถือว่าโชคดีที่โทรไปก่อน..
ไม่งั้นไปถึงอ่างขางแล้วไม่มีที่พักก็ต้องวิ่งย้อนทางลงมาผาแดงอีกนั่นแหละ..กว่าจะหาที่พักได้ก็ปาเข้าไปสี่ทุ่มแล้ว..
..ขอบคุณทุกท่านที่เยี่ยมชม+ชี้แนะ...และขอบคุณพื้นที่แห่งนี้ครับ..