ต่อไป »

[..เมืองคองเป็นชื่อตำบลหนึ่งในอำเภอเชียงดาวจังหวัดเชียงใหม่..เพื่อนๆผมมาที่นี่กันมากมายด้วยเพราะมีนกสำคัญที่แทบจะสูญพันธ์ไปจากเมืองไทยแล้วมาอยู่ที่นี่คู่หนึ่ง..แต่ละคนจึงมุ่งหน้ามาถ่ายเค้าครับ..เมื่อวานหลังจากลงจากดอยอินท์มากินข้าวอยู่ที่หางดงแล้วผมก็ติดต่อบ้านภูตะวันรีสอร์ทที่เมืองคองเพื่อจองห้องพัก..โดยอาศัยเอ็มเอสเอนของคุณพงษ์พันธ์เพราะผมยังไม่เคยไปที่นี่....ตอนที่นั่งทานข้าวนั้นมันราวทุ่มครึ่งแล้ว..ผมกะว่าทานเสร็จก็คงราวสองทุ่ม..ฝ่าการจราจรผ่านเชียงใหม่ไปถึงเชียงดาวไม่น่าเกินสองชั่วโมง..ก็แจ้งทางรีสอร์ทว่าคงไปถึงราวสี่ทุ่ม..แต่เส้นทางจากเชียงดาวไปถึงเมืองคองนั่นอีกสามสิบเจ็ดกิโลเมตร..และมันเป็นเส้นทางที่ขึ้นเขาคดเคี้ยวเลี้ยววนครับ..ระยะแรกๆถนนก็ยังดีเพราะเป็นลาดยาง..แต่พอขับไปสักพักมันกลายเป็นถนนดินเป็นร่องหลุมซะแล้ว....สี่ทุ่มนั่นผมถึงเชียงดาว..แต่กว่าจะถึงเมืองคองปาเข้าไปห้าทุ่มครับ..ปัญหาคือผมไม่เคยมาที่นี่จึงต้องอาศัยจีพีเอสนำทาง..และถนนมันมืดไปหมดเพราะไฟหน้ารถมันพุ่งตรงไปข้างหน้าอย่างเดียว..เวลาถนนมันโค้งข้างๆมันก็จะมองไม่เห็นทางเลยว่าโค้งมันหนักมากน้อยแค่ไหน..จึงต้องชลอช้าเพราะเกรงว่าซ่ามากเดี๋ยวจะลงไปนอนอยู่ในร่องข้างทางซะก่อน....เมื่อมาถึงน้องมัทรีเจ้าของรีสอร์ทมาต้อนรับและแจ้งว่าไกด์เอกับลูกทัวร์ชาวสิงคโปร์หนึ่งท่านก็อยู่ที่นี่และพรุ่งนี้เช้าจะเข้าไปถ่ายด้วยกัน..ก็นัดหมายว่าตีห้าครึ่งตื่นและทานข้าวเช้าตอนหกโมง..จากนั้นน้องมัทจะขับรถพาไปยังหมายแต่พอตื่นเช้ามาฝนตกครับ..พระเจ้าช่วยกล้วยทอดเราทั้งหมดต้องรอให้ฝนซาก่อน..รอจนเที่ยงวันมันก็เริ่มเบาลง..คณะเราจึงทานข้าวเที่ยง..พออิ่มแล้วไกด์เอก็ขับรถพาไปหมายโดยไม่ต้องให้น้องมัทนำไปเพราะทราบที่ดีอยู่แล้ว..เมื่อถึงจุดจอดรถ..ไกด์เอกับลูกทัวร์เดินเข้าไปก่อน..ส่วนผมและคณะเดินตามเข้าไปทีหลัง..คุณพงษ์พันธ์ได้ยินเสียงร้องแอ๊บๆเลยกวาดตามองหา..ก็เจอเจ้าตัวดีเกาะอยู่บนกิ่งไม้ฝั่งตรงข้ามคลอง....ไบลด์ไม่ต้องกางกันแล้ว..กางขาตั้งถ่ายมัดจำเอาไว้ก่อนท่ามกลางสายฝนปรอยๆนั่นแหละ..หลังจากนั้นจึงเดินตามเข้าหมายที่ไกด์เอล่วงหน้าไปแล้ว..ทีนี้กางไบลด์ถ่ายกันนานเลย..เพราะเจ้าตัวดีเกาะให้เราถ่ายตั้งแต่ 12.48-14.04 น.นานชั่วโมงกว่าครับ..แต่ระยะมันไกลราวห้าสิบเมตรต้องตั้งไลฟ์วิวถ่าย..ได้มาทั้งภาพนิ่งและวีดีโออยู่หลายช็อต]

..เมืองคองเป็นชื่อตำบลหนึ่งในอำเภอเชียงดาวจังหวัดเชียงใหม่..เพื่อนๆผมมาที่นี่กันมากมายด้วยเพราะมีนกสำคัญที่แทบจะสูญพันธ์ไปจากเมืองไทยแล้วมาอยู่ที่นี่คู่หนึ่ง..แต่ละคนจึงมุ่งหน้ามาถ่ายเค้าครับ..
เมื่อวานหลังจากลงจากดอยอินท์มากินข้าวอยู่ที่หางดงแล้วผมก็ติดต่อบ้านภูตะวันรีสอร์ทที่เมืองคองเพื่อจองห้องพัก..โดยอาศัยเอ็มเอสเอนของคุณพงษ์พันธ์เพราะผมยังไม่เคยไปที่นี่..
..ตอนที่นั่งทานข้าวนั้นมันราวทุ่มครึ่งแล้ว..ผมกะว่าทานเสร็จก็คงราวสองทุ่ม..ฝ่าการจราจรผ่านเชียงใหม่ไปถึงเชียงดาวไม่น่าเกินสองชั่วโมง..ก็แจ้งทางรีสอร์ทว่าคงไปถึงราวสี่ทุ่ม..
แต่เส้นทางจากเชียงดาวไปถึงเมืองคองนั่นอีกสามสิบเจ็ดกิโลเมตร..และมันเป็นเส้นทางที่ขึ้นเขาคดเคี้ยวเลี้ยววนครับ..ระยะแรกๆถนนก็ยังดีเพราะเป็นลาดยาง..แต่พอขับไปสักพักมันกลายเป็นถนนดินเป็นร่องหลุมซะแล้ว..
..สี่ทุ่มนั่นผมถึงเชียงดาว..แต่กว่าจะถึงเมืองคองปาเข้าไปห้าทุ่มครับ..ปัญหาคือผมไม่เคยมาที่นี่จึงต้องอาศัยจีพีเอสนำทาง..และถนนมันมืดไปหมดเพราะไฟหน้ารถมันพุ่งตรงไปข้างหน้าอย่างเดียว..เวลาถนนมันโค้งข้างๆมันก็จะมองไม่เห็นทางเลยว่าโค้งมันหนักมากน้อยแค่ไหน..จึงต้องชลอช้าเพราะเกรงว่าซ่ามากเดี๋ยวจะลงไปนอนอยู่ในร่องข้างทางซะก่อน..
..เมื่อมาถึงน้องมัทรีเจ้าของรีสอร์ทมาต้อนรับและแจ้งว่าไกด์เอกับลูกทัวร์ชาวสิงคโปร์หนึ่งท่านก็อยู่ที่นี่และพรุ่งนี้เช้าจะเข้าไปถ่ายด้วยกัน..ก็นัดหมายว่าตีห้าครึ่งตื่นและทานข้าวเช้าตอนหกโมง..จากนั้นน้องมัทจะขับรถพาไปยังหมาย
แต่พอตื่นเช้ามาฝนตกครับ..พระเจ้าช่วยกล้วยทอดเราทั้งหมดต้องรอให้ฝนซาก่อน..รอจนเที่ยงวันมันก็เริ่มเบาลง..คณะเราจึงทานข้าวเที่ยง..พออิ่มแล้วไกด์เอก็ขับรถพาไปหมายโดยไม่ต้องให้น้องมัทนำไปเพราะทราบที่ดีอยู่แล้ว..
เมื่อถึงจุดจอดรถ..ไกด์เอกับลูกทัวร์เดินเข้าไปก่อน..ส่วนผมและคณะเดินตามเข้าไปทีหลัง..คุณพงษ์พันธ์ได้ยินเสียงร้องแอ๊บๆเลยกวาดตามองหา..ก็เจอเจ้าตัวดีเกาะอยู่บนกิ่งไม้ฝั่งตรงข้ามคลอง..
..ไบลด์ไม่ต้องกางกันแล้ว..กางขาตั้งถ่ายมัดจำเอาไว้ก่อนท่ามกลางสายฝนปรอยๆนั่นแหละ..หลังจากนั้นจึงเดินตามเข้าหมายที่ไกด์เอล่วงหน้าไปแล้ว..
ทีนี้กางไบลด์ถ่ายกันนานเลย..เพราะเจ้าตัวดีเกาะให้เราถ่ายตั้งแต่ 12.48-14.04 น.นานชั่วโมงกว่าครับ..แต่ระยะมันไกลราวห้าสิบเมตรต้องตั้งไลฟ์วิวถ่าย..ได้มาทั้งภาพนิ่งและวีดีโออยู่หลายช็อต

[..ถ่ายตั้งแต่ฝนปรอยๆจนหยุดสนิท...นั่งเมื่อยทั้งคนทั้งนกจนต้องขยับเหยียดปีกเหยียดหางบิดขี้เกียจนั่นแหละ..แต่ระยะมันไกล..ที่ท่านเห็นนี่ถ่ายด้วยเลนส์ 600 มิล+กล้องตัวคูณ 1.6 เท่า..แล้วยังต้องคร์อปอีกบานเลย..]

..ถ่ายตั้งแต่ฝนปรอยๆจนหยุดสนิท...นั่งเมื่อยทั้งคนทั้งนกจนต้องขยับเหยียดปีกเหยียดหางบิดขี้เกียจนั่นแหละ..
แต่ระยะมันไกล..ที่ท่านเห็นนี่ถ่ายด้วยเลนส์ 600 มิล+กล้องตัวคูณ 1.6 เท่า..แล้วยังต้องคร์อปอีกบานเลย..

[..กะเต็นขาว-ดำใหญ่..Crested Kingfisher. เพศผู้ขนาดราว 38-41.5 เซ็นติเมตร..เป็นนกประจำถิ่นหากินประจำที่..ในประเทศไทยพบได้ที่นี่/เขื่อนแม่สะงาที่แม่ฮ่องสอน/อุทยานแม่วงก์กำแพงเพชร/ห้วยขาแข้งอุทัยธานี/และต้นแม่น้ำเพชรบุรี..หายากมากและเสี่ยงที่จะสูญพันธ์เป็นอย่างยิ่ง..จึงไม่ต้องสงสัยว่าทำไมใครต่อใครจึงทุ่มเทเดินทางมาถ่ายเค้าถึงที่นี่ทันทีที่มีข่าว..แต่กับลูกทัวร์ชาวจีนแผ่นดินใหญ่ผมเคยนำเสนอตัวนี้..เค้าเฉยๆไม่ตื่นเต้นครับ..เพราะที่บ้านเค้ามีเยอะ...ถ่ายจนไม่รู้ว่าจะถ่ายมันในแอ็คไหนแล้ว..แต่พอเจอนกปากห่างกับแซงแซวหางบ่วงใหญ่กดกันเสียงชัตเตอร์ระงมยังกับเกิดสงครามเลย..ฮ่าๆๆ]

..กะเต็นขาว-ดำใหญ่..Crested  Kingfisher.  เพศผู้ขนาดราว 38-41.5 เซ็นติเมตร..
เป็นนกประจำถิ่นหากินประจำที่..ในประเทศไทยพบได้ที่นี่/เขื่อนแม่สะงาที่แม่ฮ่องสอน/อุทยานแม่วงก์กำแพงเพชร/ห้วยขาแข้งอุทัยธานี/และต้นแม่น้ำเพชรบุรี..
หายากมากและเสี่ยงที่จะสูญพันธ์เป็นอย่างยิ่ง..จึงไม่ต้องสงสัยว่าทำไมใครต่อใครจึงทุ่มเทเดินทางมาถ่ายเค้าถึงที่นี่ทันทีที่มีข่าว..
แต่กับลูกทัวร์ชาวจีนแผ่นดินใหญ่ผมเคยนำเสนอตัวนี้..เค้าเฉยๆไม่ตื่นเต้นครับ..เพราะที่บ้านเค้ามีเยอะ...ถ่ายจนไม่รู้ว่าจะถ่ายมันในแอ็คไหนแล้ว..
แต่พอเจอนกปากห่างกับแซงแซวหางบ่วงใหญ่กดกันเสียงชัตเตอร์ระงมยังกับเกิดสงครามเลย..ฮ่าๆๆ

[..คณะเราหวังให้เจ้านี่บินมาเกาะที่กิ่งกลางลำน้ำที่มีคนปักไว้..ด้วยหวังระยะถ่ายที่ไม่ไกล..และแล้วพอไซ้ขนเสร็จ 14.04 น.เค้าก็บินลงกิ่ง..แต่เกาะอยู่ราวนาทีเดียวก็ไป..ซึ่งอาจเป็นเพราะน้ำในคลองไหลแรงและขุ่นจนเค้ามองไม่เห็นปลาที่จะจับกิน..ด้วยเพราะฝนที่ตกหนักมาตั้งแต่เมื่อคืน....ขอบคุณทุกท่านที่เยี่ยมชม+ชี้แนะ...และขอบคุณพื้นที่แห่งนี้ครับ..]

..คณะเราหวังให้เจ้านี่บินมาเกาะที่กิ่งกลางลำน้ำที่มีคนปักไว้..ด้วยหวังระยะถ่ายที่ไม่ไกล..
และแล้วพอไซ้ขนเสร็จ 14.04 น.เค้าก็บินลงกิ่ง..แต่เกาะอยู่ราวนาทีเดียวก็ไป..ซึ่งอาจเป็นเพราะน้ำในคลองไหลแรงและขุ่นจนเค้ามองไม่เห็นปลาที่จะจับกิน..ด้วยเพราะฝนที่ตกหนักมาตั้งแต่เมื่อคืน..
..ขอบคุณทุกท่านที่เยี่ยมชม+ชี้แนะ...และขอบคุณพื้นที่แห่งนี้ครับ..