ต่อไป »

[..สืบเนื่องเรื่องนี้คือวันที่ไปถ่ายเห็ดที่วัดมุตโตทัย..ผมเห็นอุปกรณ์ของน้าชิตที่ใช้แหวนกลับเลนส์และท่อแฟลชที่บังคับให้แสงลงเฉพาะตรงหน้าเลนส์..ดูเข้าท่าน่าใช้ครับ..สอบถามน้าชิตได้ความว่าแหวนกลับเลนส์นั่นซื้อจากลาซาด้า..ส่วนท่อแฟลชนั้นสร้างขึ้นมาเอง..ผมเองมีแต่เลนส์ 100 มิลมาโครของแคนน่อนบวกกับฟิลเตอร์โคล๊สอัพ#1 ของเคนโก้..เลยไปหาซื้อท่อมาโครซึ่งเป็นท่อต่อเลนส์เพื่อให้ถ่ายได้ใกล้ขึ้นซึ่งจะทำให้ได้ซัพเจคใหญ่ขึ้น....เป็นสินค้าจีนแดงครับ..ราคา 1500 บาท..มีสามท่อนต่อ..ส่วนท่อแฟลชผมโทรถามวิธีการสร้างกับน้าชิตแล้วทำมันขึ้นมา..มาวันนี้อุปกรณ์พร้อมแล้ว..เลยไปหาที่ลองผลงาน..แต่ไม่อยากไปสวนหลวงเพราะเมื่อคราวที่แล้วไปกับท่านประธานเดินขาขวิดจนทั่วสวน..แมงมุมซักตัวก็ไม่เจอ..เลยตัดสินใจมาที่นี่..เพราะทุกครั้งที่มาจะเห็นมีแมงมุมใยสีทองเยอะมาก..มาครั้งนี้ก็เจอครับ..แต่ปัญหาคือผมต้องเดินอยู่แค่บนทางเดินที่เป็นปูนซีเมนต์ที่ยกระดับสูงประมาณเมตรนึง..เพราะเป็นป่าชายเลน..น้ำทะเลท่วมถึงจึงเป็นเลนเป็นโคลนลงไปไม่ได้..ไอ้แมงมุมตัวใหญ่ๆที่ชักใยอยู่ห่างๆเลยถ่ายไม่ถึง..ได้ถ่ายแค่ตัวเล็กๆริมทางเดิน..และถ่ายได้แค่มุมเดียวเพราะไม่อยากลุยขี้เลนลงไปถ่าย....ประกอบกล้องกับท่อมาโครตัวที่ยาวสุดกับเลนส์มาโคร 100 มิล+ฟิลเตอร์โคล๊สอัพ..ตั้งแมนน่วลโฟกัสไว้ที่ใกล้สุด..แล้วโยกตัวเข้าหาแบบ..เมื่อเห็นชัดที่สุดก็กดชัตเตอร์..ฟังดูง่ายนะครับ..แต่ในความเป็นจริงมันไม่อย่างนั้นนะสิ..เพราะลมที่พัดเพียงเอื่อยๆก็ทำให้ตัวแมงมุมที่อยู่บนใยเคลื่อนไปมาทั้งหกแกนเลย..ซ้าย/ขวา/หน้า/หลัง/ล่าง/บนแถมตัวเราเองที่ยืนอยู่ก็ไม่นิ่งพอ..มีการโยกไหวไปมา..ในขณะที่อัตราขยายสูงขนาดนี้ช่วงชัดลึกที่มองผ่านวิวไฟเดอร์นั่นว่ากันเป็นมิลลิเมตร..กว่าจะได้จังหวะกดชัตเตอร์แต่ละใบต้องกั้นหายใจเพื่อให้ตัวเรานิ่งที่สุด....เหนื่อยเลยครับ..แถมถ่ายไปไม่กี่ใบแขนก็ล้าเพราะน้ำหนักอุปกรณ์สั่นดิกๆเลย..ยิ่งทำให้ถ่ายไม่ได้หนักเข้าไปอีก..]

..สืบเนื่องเรื่องนี้คือวันที่ไปถ่ายเห็ดที่วัดมุตโตทัย..ผมเห็นอุปกรณ์ของน้าชิตที่ใช้แหวนกลับเลนส์และท่อแฟลชที่บังคับให้แสงลงเฉพาะตรงหน้าเลนส์..
ดูเข้าท่าน่าใช้ครับ..สอบถามน้าชิตได้ความว่าแหวนกลับเลนส์นั่นซื้อจากลาซาด้า..ส่วนท่อแฟลชนั้นสร้างขึ้นมาเอง..
ผมเองมีแต่เลนส์ 100 มิลมาโครของแคนน่อนบวกกับฟิลเตอร์โคล๊สอัพ#1 ของเคนโก้..เลยไปหาซื้อท่อมาโครซึ่งเป็นท่อต่อเลนส์เพื่อให้ถ่ายได้ใกล้ขึ้นซึ่งจะทำให้ได้ซัพเจคใหญ่ขึ้น..
..เป็นสินค้าจีนแดงครับ..ราคา 1500 บาท..มีสามท่อนต่อ..ส่วนท่อแฟลชผมโทรถามวิธีการสร้างกับน้าชิตแล้วทำมันขึ้นมา..
มาวันนี้อุปกรณ์พร้อมแล้ว..เลยไปหาที่ลองผลงาน..แต่ไม่อยากไปสวนหลวงเพราะเมื่อคราวที่แล้วไปกับท่านประธานเดินขาขวิดจนทั่วสวน..แมงมุมซักตัวก็ไม่เจอ..
เลยตัดสินใจมาที่นี่..เพราะทุกครั้งที่มาจะเห็นมีแมงมุมใยสีทองเยอะมาก..มาครั้งนี้ก็เจอครับ..แต่ปัญหาคือผมต้องเดินอยู่แค่บนทางเดินที่เป็นปูนซีเมนต์ที่ยกระดับสูงประมาณเมตรนึง..
เพราะเป็นป่าชายเลน..น้ำทะเลท่วมถึงจึงเป็นเลนเป็นโคลนลงไปไม่ได้..ไอ้แมงมุมตัวใหญ่ๆที่ชักใยอยู่ห่างๆเลยถ่ายไม่ถึง..ได้ถ่ายแค่ตัวเล็กๆริมทางเดิน..และถ่ายได้แค่มุมเดียวเพราะไม่อยากลุยขี้เลนลงไปถ่าย..

..ประกอบกล้องกับท่อมาโครตัวที่ยาวสุดกับเลนส์มาโคร 100 มิล+ฟิลเตอร์โคล๊สอัพ..ตั้งแมนน่วลโฟกัสไว้ที่ใกล้สุด..แล้วโยกตัวเข้าหาแบบ..เมื่อเห็นชัดที่สุดก็กดชัตเตอร์..
ฟังดูง่ายนะครับ..แต่ในความเป็นจริงมันไม่อย่างนั้นนะสิ..เพราะลมที่พัดเพียงเอื่อยๆก็ทำให้ตัวแมงมุมที่อยู่บนใยเคลื่อนไปมาทั้งหกแกนเลย..ซ้าย/ขวา/หน้า/หลัง/ล่าง/บน
แถมตัวเราเองที่ยืนอยู่ก็ไม่นิ่งพอ..มีการโยกไหวไปมา..ในขณะที่อัตราขยายสูงขนาดนี้ช่วงชัดลึกที่มองผ่านวิวไฟเดอร์นั่นว่ากันเป็นมิลลิเมตร..กว่าจะได้จังหวะกดชัตเตอร์แต่ละใบต้องกั้นหายใจเพื่อให้ตัวเรานิ่งที่สุด..
..เหนื่อยเลยครับ..แถมถ่ายไปไม่กี่ใบแขนก็ล้าเพราะน้ำหนักอุปกรณ์สั่นดิกๆเลย..ยิ่งทำให้ถ่ายไม่ได้หนักเข้าไปอีก..

[..ภาพที่เห็นนี่ไม่มีการคร์อปครับ..ถ่ายด้วยกล้อง 5D m3 ไอเอสโอราว 3200 เอฟราว 16 และชัตเตอร์สปีดที่ 1/200 วินาทีส่วนแฟลช 580 EX ตั้งแมนน่วลที่ราว 1/8-1/32 (นี่ผมเองก็พึ่งรู้ว่ากล้องรุ่นนี้ถึงตั้งเป็นโหมด M แต่เมื่อเปิดแฟลชมันก็จะล็อคความเร็วชัตเตอร์ที่ไม่เกิน 1/200วินาที)..ถ่ายสี่ใบแรกนั่นยังรู้สึกว่าภาพมันยังเล็กไปไม่เต็มเฟรม..โดยเฉพาะเจ้าตัวมีหนามนั่นซึ่งตัวมันใหญ่กว่าหัวไม้ขีดไฟหน่อยนึง..ก็เลยถอดเลนส์ออก..แล้วเอาท่อมาโครที่เหลืออีกสองท่อนใส่เข้าไปให้หมด..มาถ่ายดูใหม่..เออ..ทีนี้ใกล้เคียงหน่อยครับ..]

..ภาพที่เห็นนี่ไม่มีการคร์อปครับ..ถ่ายด้วยกล้อง 5D m3 ไอเอสโอราว 3200 เอฟราว 16  และชัตเตอร์สปีดที่ 1/200 วินาที
ส่วนแฟลช 580 EX ตั้งแมนน่วลที่ราว 1/8-1/32 (นี่ผมเองก็พึ่งรู้ว่ากล้องรุ่นนี้ถึงตั้งเป็นโหมด M แต่เมื่อเปิดแฟลชมันก็จะล็อคความเร็วชัตเตอร์ที่ไม่เกิน 1/200วินาที)
..ถ่ายสี่ใบแรกนั่นยังรู้สึกว่าภาพมันยังเล็กไปไม่เต็มเฟรม..โดยเฉพาะเจ้าตัวมีหนามนั่นซึ่งตัวมันใหญ่กว่าหัวไม้ขีดไฟหน่อยนึง..
ก็เลยถอดเลนส์ออก..แล้วเอาท่อมาโครที่เหลืออีกสองท่อนใส่เข้าไปให้หมด..มาถ่ายดูใหม่..เออ..ทีนี้ใกล้เคียงหน่อยครับ..

[..เจ้าแมงมุมตัวนี้มองด้วยตาเปล่าแทบไม่เห็น..ส่วนแมลงวันนั่นเป็นขนาดไซ้ส์เล็กมาก..จะเห็นว่าขนาดใช้เอฟ 16 แล้ว DOF ยังบางมาก..ถ่ายอยู่ราวชั่วโมงนึงก็เกิดเหตุไม่คาดฝันที่ทำให้เกือบเสียเลนส์มาโคร 100 มิลไปครับ..คือจังหวะที่ถ่ายผมจะใช้มือขวาถือตัวกล้องและมือซ้ายประคองเลนส์..แต่จังหวะที่ถ่ายเสร็จก็ปล่อยมือซ้ายที่ประคองเลนส์ออก..และยกกล้องแค่มือข้างขวาขนานเลนส์กับพื้นผิวโลกครับ..ปรากฏว่าน้ำหนักของเลนส์ทำให้ท่อนต่อของท่อมาโครหักออกจากกัน.....แม่จ้าวววว..ยังดีที่มือไวคว้าเลนส์ไว้ทันก่อนที่จะร่วงลงขี้เลนน้ำทะเล..เพราะถ้าร่วงลงไปก็ไม่ต้องหวังซ่อม..ต้องทิ้งสถานเดียวครับ..เก็บของกลับบ้าน..แต่ท่อมาโครซื้อมามีประกันครับ..ก็เอากลับไปเคลมที่ร้านที่ซื้อมา..ชี้ให้เค้าดูว่าปัญหามันเกิดจากพาสติคที่ฉีดขึ้นรูปมารับน็อตสี่แฉกที่ขันยึดหน้าแปลนเขี้ยวล็อคที่เป็นแสตนเลสมันเล็กและกรอบทำให้รับน้ำหนักไม่ได้..ถามเค้าว่ามียี่ห้ออื่นมั้ย..เค้าบอกว่าไม่มี..และยี่ห้อนี้ถึงเป็นตัวใหม่ผมก็ไม่กล้าใช้แล้วเพราะโครงสร้างเหมือนกัน..เลยถามหาฟิลเตอร์โคล๊สอัพ..แต่พอเค้าหยิบมาให้ดูผมก็ส่ายหน้าเพราะมันดูขุ่นๆพิกล....สรุปลงท้ายเคลมมาเป็นรีโมทชัตเตอร์..ส่วนไอ้ท่อมาโคร/แหวนกลับเลนส์/ฟิลเตอร์โคล๊สอัพ..ไว้รอไปดูตอนงานโฟโต้แฟร์ละกัน....ขอบคุณทุกท่านที่เยี่ยมชม+ชี้แนะ...และขอบคุณพื้นที่แห่งนี้ครับ..]

..เจ้าแมงมุมตัวนี้มองด้วยตาเปล่าแทบไม่เห็น..ส่วนแมลงวันนั่นเป็นขนาดไซ้ส์เล็กมาก..จะเห็นว่าขนาดใช้เอฟ 16 แล้ว DOF ยังบางมาก..
ถ่ายอยู่ราวชั่วโมงนึงก็เกิดเหตุไม่คาดฝันที่ทำให้เกือบเสียเลนส์มาโคร 100 มิลไปครับ..คือจังหวะที่ถ่ายผมจะใช้มือขวาถือตัวกล้องและมือซ้ายประคองเลนส์..
แต่จังหวะที่ถ่ายเสร็จก็ปล่อยมือซ้ายที่ประคองเลนส์ออก..และยกกล้องแค่มือข้างขวาขนานเลนส์กับพื้นผิวโลกครับ..ปรากฏว่าน้ำหนักของเลนส์ทำให้ท่อนต่อของท่อมาโครหักออกจากกัน..
...แม่จ้าวววว..ยังดีที่มือไวคว้าเลนส์ไว้ทันก่อนที่จะร่วงลงขี้เลนน้ำทะเล..เพราะถ้าร่วงลงไปก็ไม่ต้องหวังซ่อม..ต้องทิ้งสถานเดียวครับ..
เก็บของกลับบ้าน..แต่ท่อมาโครซื้อมามีประกันครับ..ก็เอากลับไปเคลมที่ร้านที่ซื้อมา..ชี้ให้เค้าดูว่าปัญหามันเกิดจากพาสติคที่ฉีดขึ้นรูปมารับน็อตสี่แฉกที่ขันยึดหน้าแปลนเขี้ยวล็อคที่เป็นแสตนเลสมันเล็กและกรอบทำให้รับน้ำหนักไม่ได้..
ถามเค้าว่ามียี่ห้ออื่นมั้ย..เค้าบอกว่าไม่มี..และยี่ห้อนี้ถึงเป็นตัวใหม่ผมก็ไม่กล้าใช้แล้วเพราะโครงสร้างเหมือนกัน..เลยถามหาฟิลเตอร์โคล๊สอัพ..แต่พอเค้าหยิบมาให้ดูผมก็ส่ายหน้าเพราะมันดูขุ่นๆพิกล..
..สรุปลงท้ายเคลมมาเป็นรีโมทชัตเตอร์..ส่วนไอ้ท่อมาโคร/แหวนกลับเลนส์/ฟิลเตอร์โคล๊สอัพ..ไว้รอไปดูตอนงานโฟโต้แฟร์ละกัน..
..ขอบคุณทุกท่านที่เยี่ยมชม+ชี้แนะ...และขอบคุณพื้นที่แห่งนี้ครับ..

อ้าว...... เข้าวัด  ทำไมไม่ไปสนทนาธรรมกับหลวงพ่อล่ะครับ อิๆ

[สนทนาเทคกับท่านดีกว่ามัง..คือผมสงสัยจังว่าตาแมลงวันที่ถ่ายมาเวลาที่ดูในไฟล์เต็ม..มันคมชัดเป็นตาข่ายเซลลูลาร์หกเหลี่ยม..แต่พอลดขนาดเหลือ 900X600 ทำไมมันเละๆยุ่ยๆไปซะยังงั้นครับ..ไม่ว่าจะทำการลดแบบออโตในโฟโต้ชร์อพ...หรือลดแบบแมนน่วลในเอซีดีซี..ผลก็แทบไม่แตกต่าง..]

อ้าว...... เข้าวัด  ทำไมไม่ไปสนทนาธรรมกับหลวงพ่อล่ะครับ อิๆ

สนทนาเทคกับท่านดีกว่ามัง..คือผมสงสัยจังว่าตาแมลงวันที่ถ่ายมาเวลาที่ดูในไฟล์เต็ม..มันคมชัดเป็นตาข่ายเซลลูลาร์หกเหลี่ยม..
แต่พอลดขนาดเหลือ 900X600 ทำไมมันเละๆยุ่ยๆไปซะยังงั้นครับ..ไม่ว่าจะทำการลดแบบออโตในโฟโต้ชร์อพ...หรือลดแบบแมนน่วลในเอซีดีซี..ผลก็แทบไม่แตกต่าง..

...แจ่มครับ..

[สนทนาเทคกับท่านดีกว่ามัง..คือผมสงสัยจังว่าตาแมลงวันที่ถ่ายมาเวลาที่ดูในไฟล์เต็ม..มันคมชัดเป็นตาข่ายเซลลูลาร์หกเหลี่ยม..แต่พอลดขนาดเหลือ 900X600 ทำไมมันเละๆยุ่ยๆไปซะยังงั้นครับ..ไม่ว่าจะทำการลดแบบออโตในโฟโต้ชร์อพ...หรือลดแบบแมนน่วลในเอซีดีซี..ผลก็แทบไม่แตกต่าง..]

อ้าว...... เข้าวัด  ทำไมไม่ไปสนทนาธรรมกับหลวงพ่อล่ะครับ อิๆ

สนทนาเทคกับท่านดีกว่ามัง..คือผมสงสัยจังว่าตาแมลงวันที่ถ่ายมาเวลาที่ดูในไฟล์เต็ม..มันคมชัดเป็นตาข่ายเซลลูลาร์หกเหลี่ยม..
แต่พอลดขนาดเหลือ 900X600 ทำไมมันเละๆยุ่ยๆไปซะยังงั้นครับ..ไม่ว่าจะทำการลดแบบออโตในโฟโต้ชร์อพ...หรือลดแบบแมนน่วลในเอซีดีซี..ผลก็แทบไม่แตกต่าง..


ต้องไปโทษแก๊สโซฮอลครับ  เพราะแก๊สโซฮอลนั่นแหละที่ผิดครับ