ต่อไป »

https://www.google.co.th/maps/place/Phu+Chifa/@19.8505551,100.4451341,15z/data=!3m1!4b1!4m5!3m4!1s0x30d7d01978dac17d:0x1d0100b2deabcfc0!8m2!3d19.8505556!4d100.4538889

[..เมื่อวานกลับจากดอยสันจุ๊..ขับมาส่งน้าว่างที่บ้านแล้วผมกับท่านประธานก็มุ่งหน้าวัดสุขเกษมที่อำเภอขุนตาล..แต่มาแวะนอนที่รีสร์อทแถวอำเภอเทิงครับ..แปดโมงเช้าตื่นนอนแล้วก็เข้าไปวัด..หลังจากตรวจงานและจัดหาอุปกรณ์เพิ่มเติมให้ช่างแล้วท่านประธานก็พามาที่นี่..ภูชี้ฟ้าครับ..เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ชื่อเสียงเลื่องลือ...แต่ผมยังไม่เคยมาด้วยว่ามันไกลจากบ้านเป็นอันมาก...เมื่อมาถึงเทิงแล้วก็ลองมาดูซะหน่อย....แต่แม่จ้าว..มันมาไม่ง่ายเลย...ด้วยต้องขับรถอยู่บนเส้นทางสูงชันและคดเคี้ยวเลี้ยววนอยู่บนเขา...ข้ามมาไม่รู้กี่ลูกต่อกี่ลูก..ขับรถขึ้นมาจอดที่ลานจอดด้านบนสุดได้เลย...ท่านประธานบอกว่าถ้ามาช่วงเทศกาลปีใหม่ต้องจอดข้างล่างแล้วเดินขึ้นมาเป็นกิโล..ด้วยว่านักท่องเที่ยวเยอะมาก.. ..10.30น...มีเพียงผมกับท่านประธานเป็นนักท่องเที่ยวที่มาถึงสองคนแรกของวันนี้..หลังจากนั้นก็มีตามมาราวสิบกว่าคนเองครับ..]

..เมื่อวานกลับจากดอยสันจุ๊..ขับมาส่งน้าว่างที่บ้านแล้วผมกับท่านประธานก็มุ่งหน้าวัดสุขเกษมที่อำเภอขุนตาล..แต่มาแวะนอนที่รีสร์อทแถวอำเภอเทิงครับ..
แปดโมงเช้าตื่นนอนแล้วก็เข้าไปวัด..หลังจากตรวจงานและจัดหาอุปกรณ์เพิ่มเติมให้ช่างแล้วท่านประธานก็พามาที่นี่..ภูชี้ฟ้าครับ
..เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ชื่อเสียงเลื่องลือ...แต่ผมยังไม่เคยมาด้วยว่ามันไกลจากบ้านเป็นอันมาก...เมื่อมาถึงเทิงแล้วก็ลองมาดูซะหน่อย..
..แต่แม่จ้าว..มันมาไม่ง่ายเลย...ด้วยต้องขับรถอยู่บนเส้นทางสูงชันและคดเคี้ยวเลี้ยววนอยู่บนเขา...ข้ามมาไม่รู้กี่ลูกต่อกี่ลูก..
ขับรถขึ้นมาจอดที่ลานจอดด้านบนสุดได้เลย...ท่านประธานบอกว่าถ้ามาช่วงเทศกาลปีใหม่ต้องจอดข้างล่างแล้วเดินขึ้นมาเป็นกิโล..ด้วยว่านักท่องเที่ยวเยอะมาก..
 ..10.30น...มีเพียงผมกับท่านประธานเป็นนักท่องเที่ยวที่มาถึงสองคนแรกของวันนี้..หลังจากนั้นก็มีตามมาราวสิบกว่าคนเองครับ..

[จัดเตรียมกล้อง..และเอาหนอนกับเมล็ดธัญญพืชที่น้าว่างลืมไว้ในรถไปปล่อยข้างบนด้วย..เพราะท่านประธานบอกนกเยอะ..ที่เห็นด้านซ้ายเหมือนบันไดนั่นแหละครับทางขึ้นภู..จากตรงนี้เราต้องเดินขึ้นเขาชันราว 30 องศาไป 750 เมตรจึงจะถึงจุดชมวิว..]

จัดเตรียมกล้อง..และเอาหนอนกับเมล็ดธัญญพืชที่น้าว่างลืมไว้ในรถไปปล่อยข้างบนด้วย..เพราะท่านประธานบอกนกเยอะ..
ที่เห็นด้านซ้ายเหมือนบันไดนั่นแหละครับทางขึ้นภู..จากตรงนี้เราต้องเดินขึ้นเขาชันราว 30 องศาไป 750 เมตรจึงจะถึงจุดชมวิว..

[เดินขึ้นพอมาราวสองร้อยเมตรพอได้เหงื่อเราก็มาเจอด่านครับ..คุณแม่ชาวเขาพาลูกน้อยมาร้องลิปซิงค์ขอค่าขนมครับ..ไม่รู้ท่านประธานจ่ายค่าตัวไปเท่าไหร่..เพราะท่านรักเด็ก..อิๆ]

เดินขึ้นพอมาราวสองร้อยเมตรพอได้เหงื่อเราก็มาเจอด่านครับ..
คุณแม่ชาวเขาพาลูกน้อยมาร้องลิปซิงค์ขอค่าขนมครับ..ไม่รู้ท่านประธานจ่ายค่าตัวไปเท่าไหร่..เพราะท่านรักเด็ก..อิๆ

[..เดินมาถึงครึ่งทางแล้วครับ..มีม้านั่งให้พักขาใต้ต้นสนสามใบ..ที่เห็นชง่อนผาไกลๆในภาพนั่นแหละ..เป้าหมายที่เราจะไป..]

..เดินมาถึงครึ่งทางแล้วครับ..มีม้านั่งให้พักขาใต้ต้นสนสามใบ..
ที่เห็นชง่อนผาไกลๆในภาพนั่นแหละ..เป้าหมายที่เราจะไป..

[หลังจากพักขาและวางอาหารให้วิหคแล้วเราก็เดินขึ้นภูต่อ..นี่คือวิวระหว่างทางซึ่งส่วนหนึ่งคือประเทศไทยแต่ทางด้านขวามือที่เราเดินไปนั้นคือฝั่งลาวครับ..]

หลังจากพักขาและวางอาหารให้วิหคแล้วเราก็เดินขึ้นภูต่อ..
นี่คือวิวระหว่างทางซึ่งส่วนหนึ่งคือประเทศไทยแต่ทางด้านขวามือที่เราเดินไปนั้นคือฝั่งลาวครับ..

[เส้นทางเดินก็เป็นทางดินเล็กๆ..ค่อยๆไต่ขึ้นสูงไปเรื่อยๆ..เดินไม่เหนื่อย..เพราะมีลมพัดเย็นสบาย..และวันที่ไปแดดไม่จัดเพราะมีเมฆหมอกคลุมครึ้มๆตลอดเวลา..]

เส้นทางเดินก็เป็นทางดินเล็กๆ..ค่อยๆไต่ขึ้นสูงไปเรื่อยๆ..
เดินไม่เหนื่อย..เพราะมีลมพัดเย็นสบาย..และวันที่ไปแดดไม่จัดเพราะมีเมฆหมอกคลุมครึ้มๆตลอดเวลา..

[ท่านประธานขึ้นไปถึงผาหัวสิงห์แล้วครับ..เห็นมีผู้ชายนั่งอยู่ที่นั่นสองคน..เค้าเป็นช่างภาพมืออาชีพ..รับจ้างถ่ายรูปให้นักท่องเที่ยวโดยอัดเป็นภาพขนาด 6X8 นิ้ว..โดยใช้แบตเตอรี่เป็นเพาเวอร์ให้เครื่องปริ๊นซ์..ราคาใบละห้าสิบบาท..]

ท่านประธานขึ้นไปถึงผาหัวสิงห์แล้วครับ..
เห็นมีผู้ชายนั่งอยู่ที่นั่นสองคน..เค้าเป็นช่างภาพมืออาชีพ..
รับจ้างถ่ายรูปให้นักท่องเที่ยวโดยอัดเป็นภาพขนาด 6X8 นิ้ว..โดยใช้แบตเตอรี่เป็นเพาเวอร์ให้เครื่องปริ๊นซ์..ราคาใบละห้าสิบบาท..

[ที่เห็นหมู่บ้านอยู่ข้างล่างลิบๆโน่นคือประเทศลาวครับ..ถ่ายผ่านหมอกบางๆลงไปมัวไปหมด..]

ที่เห็นหมู่บ้านอยู่ข้างล่างลิบๆโน่นคือประเทศลาวครับ..ถ่ายผ่านหมอกบางๆลงไปมัวไปหมด..

[มาถึงที่นี่ก็ต้องท่านี้แหละ..จะไปชี้โบ๊ชี้เบ๊ได้ไง..อิๆหลักเขตนั่น..ด้านนึงฝั่งไทยด้านนึงฝั่งลาวครับ..แต่คนลาวขึ้นมาตรงนี้ไม่ได้เพราะหน้าผาชัน..เราเลยยึดซะเลย..ฮ่าๆๆ]

มาถึงที่นี่ก็ต้องท่านี้แหละ..จะไปชี้โบ๊ชี้เบ๊ได้ไง..อิๆ
หลักเขตนั่น..ด้านนึงฝั่งไทยด้านนึงฝั่งลาวครับ..แต่คนลาวขึ้นมาตรงนี้ไม่ได้เพราะหน้าผาชัน..เราเลยยึดซะเลย..ฮ่าๆๆ

[นี่เป็นนักท่องเที่ยวที่ตามหลังขึ้นมาถึงครับ..ผู้ชายเป็นคนออสเตรเลียส่วนฝ่ายหญิงมาจากกวางโจว..ไปรู้จักมักจี่กันยังไงผมก็ขี้เกียจไปถามซอกแซก..เค้ามาสนทนาด้วยเพราะสนใจเลนส์ที่ผมโดนท่านประธานหลอกให้แบกขึ้นไปด้วย..เลยคุยกันทั้งภาษาอังกฤษและจีนกลาง..พ่อหนุ่มนี่บอกว่ามาเมืองไทยกว่าห้าสิบครั้งแล้ว..รักเมืองไทยมาก..โดยเฉพาะทางเหนือนี้เพราะอากาศเย็นสบาย..เค้าสองคนท่องเที่ยวโดยเช่ารถปิคอัพขับกันมาจากสนามบินเชียงใหม่....สุดท้ายถามผมว่ามีไฟแช็คมั้ย..เพราะเค้าจะสูบบุหรี่แต่เหลือไม้ขีดไฟแค่ก้านเดียว..แถมตรงนี้ลมมันพัดแรงกลัวจุดไม่ติด..ฮ่าๆๆ..เรื่องนี้ผมช่วยไม่ได้เพราะแก่จนไม่มีไฟแล้วครับ..แต่ก็ช่วยยืนบังลมให้เค้าจุดไม้ขีดก้านสุดท้ายนั่น..ในที่สุดเค้าก็ได้ดูดมะเร็งสมใจ..เหอๆๆ..ไหนๆก็แบกเลนส์ขึ้นมาแล้ว..นกก็ไม่มีให้ถ่าย..เลยแอบเก็บค่าต๋งสาวจีนมาสองใบครับ..]

นี่เป็นนักท่องเที่ยวที่ตามหลังขึ้นมาถึงครับ..ผู้ชายเป็นคนออสเตรเลียส่วนฝ่ายหญิงมาจากกวางโจว..
ไปรู้จักมักจี่กันยังไงผมก็ขี้เกียจไปถามซอกแซก..เค้ามาสนทนาด้วยเพราะสนใจเลนส์ที่ผมโดนท่านประธานหลอกให้แบกขึ้นไปด้วย..
เลยคุยกันทั้งภาษาอังกฤษและจีนกลาง..พ่อหนุ่มนี่บอกว่ามาเมืองไทยกว่าห้าสิบครั้งแล้ว..รักเมืองไทยมาก..
โดยเฉพาะทางเหนือนี้เพราะอากาศเย็นสบาย..เค้าสองคนท่องเที่ยวโดยเช่ารถปิคอัพขับกันมาจากสนามบินเชียงใหม่..
..สุดท้ายถามผมว่ามีไฟแช็คมั้ย..เพราะเค้าจะสูบบุหรี่แต่เหลือไม้ขีดไฟแค่ก้านเดียว..แถมตรงนี้ลมมันพัดแรงกลัวจุดไม่ติด..
ฮ่าๆๆ..เรื่องนี้ผมช่วยไม่ได้เพราะแก่จนไม่มีไฟแล้วครับ..แต่ก็ช่วยยืนบังลมให้เค้าจุดไม้ขีดก้านสุดท้ายนั่น..ในที่สุดเค้าก็ได้ดูดมะเร็งสมใจ..เหอๆๆ..
ไหนๆก็แบกเลนส์ขึ้นมาแล้ว..นกก็ไม่มีให้ถ่าย..เลยแอบเก็บค่าต๋งสาวจีนมาสองใบครับ..

[สรุปผมว่าที่นี่ไม่มีอะไรน่าสนใจ..แถมเส้นทางที่จะมาค่อนข้างอันตรายด้วยต้องวิ่งบนเส้นทางสูงชันมาก..ถ้าเป็นคนขับมือใหม่ผมแนะนำว่าอย่าเสี่ยงเลย..เดี๋ยวไม่คุ้ม..แต่ท่านประธานบอกว่าเพราะผมมาไม่ถูกเวลา..ต้องมาช่วงปีใหม่และขึ้นภูตั้งแต่ตีห้าเพื่อมาดูพระอาทิตย์ขึ้นโดยมีหมอกคลุมต่ำกว่าระดับที่เรายืนบนชง่อนผานั้น..สวรรค์ชัดๆแต่..ท่านก็บอกมาอีกว่ามีอยู่ปีนึงที่ท่านมาที่นี่ตอนปีใหม่และได้ขึ้นภูตอนตีห้านี่แหละ..แต่เมื่อไปถึงไม่เห็นพระอาทิตย์ครับ..เพราะมีแต่หัวคนบังมืดไปหมด..อารัยมันจะขนาดน้านนนน...ฮ่าๆๆ..คนไทยเที่ยวเก่งจริงๆ..แต่สำหรับที่นี่ผมถือคติการท่องเที่ยวครับ..คือ"เที่ยวเมืองไทย-ไม่ไปไม่รู้"..แต่พอผมรู้แล้ว-ผมก็จะไม่ไปอีก..เหอๆๆ..ขอบคุณทุกท่านที่เยี่ยมชม+ชี้แนะ...และขอบคุณพื้นที่แห่งนี้ครับ..]

สรุปผมว่าที่นี่ไม่มีอะไรน่าสนใจ..แถมเส้นทางที่จะมาค่อนข้างอันตรายด้วยต้องวิ่งบนเส้นทางสูงชันมาก..ถ้าเป็นคนขับมือใหม่ผมแนะนำว่าอย่าเสี่ยงเลย..เดี๋ยวไม่คุ้ม..
แต่ท่านประธานบอกว่าเพราะผมมาไม่ถูกเวลา..ต้องมาช่วงปีใหม่และขึ้นภูตั้งแต่ตีห้าเพื่อมาดูพระอาทิตย์ขึ้นโดยมีหมอกคลุมต่ำกว่าระดับที่เรายืนบนชง่อนผานั้น..สวรรค์ชัดๆ
แต่..ท่านก็บอกมาอีกว่ามีอยู่ปีนึงที่ท่านมาที่นี่ตอนปีใหม่และได้ขึ้นภูตอนตีห้านี่แหละ..แต่เมื่อไปถึงไม่เห็นพระอาทิตย์ครับ..เพราะมีแต่หัวคนบังมืดไปหมด..อารัยมันจะขนาดน้านนนน...ฮ่าๆๆ
..คนไทยเที่ยวเก่งจริงๆ..แต่สำหรับที่นี่ผมถือคติการท่องเที่ยวครับ..คือ"เที่ยวเมืองไทย-ไม่ไปไม่รู้"..แต่พอผมรู้แล้ว-ผมก็จะไม่ไปอีก..เหอๆๆ
..ขอบคุณทุกท่านที่เยี่ยมชม+ชี้แนะ...และขอบคุณพื้นที่แห่งนี้ครับ..

 

ว่าซะเสียของเลย น้ายอด