ต่อไป »

[..หลังจากกลับมาจากถ่ายเจ้าบลูแบนที่แก่ง...ป้าอ้อกับน้าก๋อยก็เดินทางไปมาเลย์..ช่วงนั้นก็มีข่าวปีกแพรเขียวที่ภูหลวงครับ..แต่ป้ากับน้าก๋อยยังไม่กลับมาไทยเลยไม่ได้ไปเอาปีกแพร..แต่พอกลับมาก็ได้ข่าวเจ้านี่ทำรังเลี้ยงลูกอยู่....ป้ารีบโทรมาชวนผม..คณะเราคือป้าอ้อ-น้าก๋อย-ป้าเพลิน-และผมก็รีบเดินทางไปภูเรือตั้งแต่บ่ายโมงของวันที่ 15..เราเข้าพักที่บุษบารีสร์อทที่ภูเรือก่อนครับ..เช้ามาก็หาซื้ออาหารกินและสำรองไว้มื้อเที่ยง..แล้วดิ่งขึ้นไปโคกนกกระบา..ตะกายมุดป่า(คือมันไม่ใช่การเดินนะ..ต้องทั้งปีนทั้งป่าย)ระยะทางราวสี่สิบเมตรลงไปเฝ้าหน้าบ้านเจ้านี่....ปากนกแก้วหูดำ..Golden Parrotbill. นกชนิดใหม่ที่พบในไทยมาราวๆสามสี่ปี..และมีอยู่เฉพาะที่นี่ที่เดียวในไทย(ก็เจ้านี่แหละที่ฝากรอยแค้นไว้กับป้าอ้อและน้าก๋อยเมื่อคราวที่แล้ว..เพราะมันไวถ่ายไม่ทัน)]

..หลังจากกลับมาจากถ่ายเจ้าบลูแบนที่แก่ง...ป้าอ้อกับน้าก๋อยก็เดินทางไปมาเลย์..ช่วงนั้นก็มีข่าวปีกแพรเขียวที่ภูหลวงครับ..
แต่ป้ากับน้าก๋อยยังไม่กลับมาไทยเลยไม่ได้ไปเอาปีกแพร..แต่พอกลับมาก็ได้ข่าวเจ้านี่ทำรังเลี้ยงลูกอยู่..
..ป้ารีบโทรมาชวนผม..คณะเราคือป้าอ้อ-น้าก๋อย-ป้าเพลิน-และผมก็รีบเดินทางไปภูเรือตั้งแต่บ่ายโมงของวันที่ 15..เราเข้าพักที่บุษบารีสร์อทที่ภูเรือก่อนครับ..
เช้ามาก็หาซื้ออาหารกินและสำรองไว้มื้อเที่ยง..แล้วดิ่งขึ้นไปโคกนกกระบา..ตะกายมุดป่า(คือมันไม่ใช่การเดินนะ..ต้องทั้งปีนทั้งป่าย)ระยะทางราวสี่สิบเมตรลงไปเฝ้าหน้าบ้านเจ้านี่..
..ปากนกแก้วหูดำ..Golden  Parrotbill.  นกชนิดใหม่ที่พบในไทยมาราวๆสามสี่ปี..และมีอยู่เฉพาะที่นี่ที่เดียวในไทย(ก็เจ้านี่แหละที่ฝากรอยแค้นไว้กับป้าอ้อและน้าก๋อยเมื่อคราวที่แล้ว..เพราะมันไวถ่ายไม่ทัน)

[สถานที่ถ่ายลำบากสุดๆ..เพราะเป็นที่ลาดชันชื้นแฉะและคับแคบ..นั่งเก้าอี้ก็ไม่ได้..ต้องนั่งกับพื้นถ่าย..แถมด้วยต้องคอยระวังทากจะไชก้น..เหอๆๆรังเค้าสวยมาก..มีมอสซึ่งผมเข้าใจว่าเค้าคาบมาแต่งพันเขียวๆไปหมด..คงเพื่อพรางตาศัตรู..แต่สภาพแสงสิ..แย่สุดๆ..เพราะรังอยู่ในที่ร่มแต่แดดลงด้านหลังและสะท้อนใบไผ่สว่างจ้ามาเข้าเลนส์..และเปลี่ยนแปลงไปทุกนาทีเพราะเราอยู่บนเขาสูงที่เมฆพัดผ่านตลอดเวลา..ถ้าเป็นแต่ก่อนนี่ภาพชุดนี้ผมต้องมาทำเบริ์นแอนด์เบลอในคอมพ์...แต่เดี๋ยวนี้ขี้เกียจครับ..ปรับค่าแสงนิดหน่อยพอละ..]

สถานที่ถ่ายลำบากสุดๆ..เพราะเป็นที่ลาดชันชื้นแฉะและคับแคบ..นั่งเก้าอี้ก็ไม่ได้..ต้องนั่งกับพื้นถ่าย..แถมด้วยต้องคอยระวังทากจะไชก้น..เหอๆๆ
รังเค้าสวยมาก..มีมอสซึ่งผมเข้าใจว่าเค้าคาบมาแต่งพันเขียวๆไปหมด..คงเพื่อพรางตาศัตรู..
แต่สภาพแสงสิ..แย่สุดๆ..เพราะรังอยู่ในที่ร่มแต่แดดลงด้านหลังและสะท้อนใบไผ่สว่างจ้ามาเข้าเลนส์..และเปลี่ยนแปลงไปทุกนาทีเพราะเราอยู่บนเขาสูงที่เมฆพัดผ่านตลอดเวลา..
ถ้าเป็นแต่ก่อนนี่ภาพชุดนี้ผมต้องมาทำเบริ์นแอนด์เบลอในคอมพ์...แต่เดี๋ยวนี้ขี้เกียจครับ..ปรับค่าแสงนิดหน่อยพอละ..

[พ่อแม่นอกจากเอาอาหารมาส่งแล้วยังต้องคาบอึลูกไปทิ้งด้วย..และดูขนาดของลูกแล้วเราเชื่อว่าคงออกรังในวันสองวันนี้แล้ว..จากบ้านมา 543 กิโลเมตร..ผมได้ถ่ายใบแรกนั่นตอนเวลา 07.48 น. พอถ่ายถึง 13.38 น.น้าก๋อยก็ขอถอนตัว..ผมเห็นด้วยเพราะฟ้าฝนโปรยปรายลงมาเบาๆหลายครั้งแล้ว..เกิดมันเทลงมาหนักๆจะทำยังไง..คณะเราเลยถอนตัวมาทานมื้อเที่ยงที่บ้านสำเภางามซึ่งเคยมาพักเมื่อครั้งที่แล้ว....หลังมื้อเที่ยงซึ่งอิ่มเอาราวบ่ายสองโมงครึ่ง..คณะเราก็ตกลงกันว่าจะไปหาที่นอนคืนนี้แถวเพชรบูรณ์เพื่อไปน้ำหนาวในวันรุ่งขึ้น..เก็บข้าวของขึ้นรถ..พอวิ่งผ่านแถวด่านซ้ายก็เจองานผีตาโขนซึ่งจัดเป็นวันสุดท้าย..แต่น่าเสียดายที่แต่ละท่านเอามาแต่เลนส์ถ่ายนก..มีแต่ผมคนเดียวที่ติดเลนส์สั้นมาด้วย..เลยต้องผ่านด้วยความเสียดาย....ขอบคุณทุกท่านที่เยี่ยมชม+ชี้แนะ...และขอบคุณพื้นที่แห่งนี้ครับ..]

พ่อแม่นอกจากเอาอาหารมาส่งแล้วยังต้องคาบอึลูกไปทิ้งด้วย..และดูขนาดของลูกแล้วเราเชื่อว่าคงออกรังในวันสองวันนี้แล้ว..
จากบ้านมา 543 กิโลเมตร..ผมได้ถ่ายใบแรกนั่นตอนเวลา 07.48 น.  พอถ่ายถึง 13.38 น.น้าก๋อยก็ขอถอนตัว..
ผมเห็นด้วยเพราะฟ้าฝนโปรยปรายลงมาเบาๆหลายครั้งแล้ว..เกิดมันเทลงมาหนักๆจะทำยังไง..คณะเราเลยถอนตัวมาทานมื้อเที่ยงที่บ้านสำเภางามซึ่งเคยมาพักเมื่อครั้งที่แล้ว..
..หลังมื้อเที่ยงซึ่งอิ่มเอาราวบ่ายสองโมงครึ่ง..คณะเราก็ตกลงกันว่าจะไปหาที่นอนคืนนี้แถวเพชรบูรณ์เพื่อไปน้ำหนาวในวันรุ่งขึ้น..
เก็บข้าวของขึ้นรถ..พอวิ่งผ่านแถวด่านซ้ายก็เจองานผีตาโขนซึ่งจัดเป็นวันสุดท้าย..แต่น่าเสียดายที่แต่ละท่านเอามาแต่เลนส์ถ่ายนก..มีแต่ผมคนเดียวที่ติดเลนส์สั้นมาด้วย..เลยต้องผ่านด้วยความเสียดาย..
..ขอบคุณทุกท่านที่เยี่ยมชม+ชี้แนะ...และขอบคุณพื้นที่แห่งนี้ครับ..